“ค่ายเซราะกราว” พรรคภูมิใจไทย ถือโอกาสประชุมใหญ่สามัญประจำปีนี้ ยกเครื่องใหม่ เปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคแทบยกชุด ดัน “คนรุ่นใหม่” เข้ามายึดหัวหาด หวังปั้นพรรคในแนวทางที่ต่างจากเดิม
แต่พอพิเคราะห์เจาะลึกแล้ว แคมเปญ “นิวเจนภูมิใจไทย” ก็ไม่ได้ต่างจากอีหรอบเดิม เพราะคนถือหางเสือตัวจริงก็ยังเป็น “น้าเน” เนวิน ชิดชอบ ที่ถูกยกให้เป็น “ครูใหญ่ภูมิใจไทย”
ทำให้บรรดา “คนรุ่นใหม่” ที่พรรคภูมิใจไทยเปิดตัวมาเป็นกรรมการบริหารพรรค ถูกตั้งคำถามตัวโตๆ ว่า “ใหม่” จริงหรือเปล่า ด้วยล้วนแล้วแต่มีร่างเงาของ “รุ่นเก่า-รุ่นพ่อ” คอยเชิดอยู่เบื้องหลัง ตามคอนเซปต์ “ทายาทบ้านใหญ่” ที่ “หัวหน้าหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ประกาศบนฟลอร์ด้วยตัวเอง
ที่สปอตไลท์ส่องหนักสุดไม่พ้น “ลูกนก” ไชยชนก ชิดชอบ ทายาท “ป๋าเน” ที่พรวดพราดมานั่งเลขาธิการพรรค ต่อจาก “อาโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายเนวิน ที่จำใจต้องทิ้งเก้าอี้เพราะต้องคดีในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ
เป็น “ไชยชนก” ที่เพิ่งลงสนามการเมือง ได้รับเลือกตั้งเป็น สส.บุรีรัมย์ สมัยแรก ที่หากไม่มีพ่อชื่อ “เนวิน” ก็ห่างไกลโอกาสที่จะได้มาเป็นแม่บ้านพรรคระดับ 71 เสียงในสภาผู้แทนราษฎรแบบนี้
ด้วยพรรษาของ “ไชยชนก” ที่ยังไม่ถึง ไร้ดีกรีประสบการณ์ทางการเมือง หนักกว่าการที่ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กของ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร ที่ยังพอมีมูฟเมนท์การเมืองมาตั้งแต่เด็ก มีเวทีหาเสียงเลือกตั้งแต่งตัวเป็นพิธี ก่อนดันขึ้นนั่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสียอีก
แน่นอนว่าการบริหารพรรคในหมวกแม่บ้านพรรคของ “ลูกนก” ก็ต้องถูกวางแผน-วางเกม โดย “ป๋าเน” เพราะลำพังตัวเอง คงไม่มีบารมีมากพอจะคอนโทรล 71 สส. ที่ส่วนใหญ่เป็นรุ่นพ่อ-รุ่นอา ให้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาได้
รับกับกระแสคลื่นใต้น้ำระดับ “อาวุโส” ใน “ค่ายเซราะกราว” ที่มองว่า เร็วเกินไปที่ “หลานนก” จะขึ้นชั้นมาเป็นเลขาธิการพรรค และเห็นว่า “เสี่ยป้อม” ทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ที่ก็มีศักดิ์เป็นเครือญาติตระกูลชิดชอบมีความเหมาะสมกว่าในเวลานี้
หรือจะเป็น “โกเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ซึ่งเป็นนายทุน ที่รับผิดชอบ และทำผลงานในพื้นที่ภาคใต้เข้าเป้า ก็ไม่มีใครติดอะไร
แต่ก็เป็น “ครูใหญ่เน“ ที่ทุบโต๊ะมอบเก้าอี้เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยให้กับ ”ลูกนก“ ทายาทหัวแก้วหัวแหวนของตัวเอง
มองเหลี่ยมไหน “บ้านใหญ่ชิดชอบ” แค่ส่งตัวละครใหม่มาแสดงแทน ไม่ปล่อยให้ “เด็ก” คิดเอง ทำเอง อย่างที่โฆษณาเอาไว้อย่างแน่นอน
แต่ครั้นจะดัน “ไชยชนก” ขึ้นเป็นใหญ่ในพรรคคนเดียวก็ดูประดักประเดิด เลยสั่งการให้ดัน “ทายาทบ้านใหญ่” ขึ้นยกแผงในคราวเดียวกันไปเลย
โดยมี “ทายาทบ้านใหญ่” ที่ถูกวางตัวเพื่อสืบทอดอำนาจทางการเมือง “รุ่นแม่-รุ่นพ่อ” ตั้งแต่รองหัวหน้าพรรค 3 คน นำโดย “เสี่ยเอ” สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ ลูกชาย “ซ้อสมทรง” สมทรง พันธุ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา 5 สมัย เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 ในฐานะตัวแทนบ้านใหญ่อยุธยา
พร้อมด้วย “เฮียแบด” ภราดร ปริศนานันทกุล ลูกชายของ ลูกชาย “เฮียตือ” สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีตรัฐมนตรี-สส.หลายสมัย และ “เฮียโต้ง” สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ลูกชาย ฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ เป็นรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยคนที่ 2-3 ตามลำดับ
ส่วนรองเลขาธิการพรรคทั้ง 3 ตำแหน่ง ก็ล้วนเป็นคนการเมืองจากบ้านใหญ่เช่นเดียวกัน “ไชยชนก” ปัจจุบันอายุ 33 ปี ลูกพ่อเนวิน หลานปู่ชัย หลานอาโอ๋ ศักดิ์สยาม ตัวแทนตระกูลชิดชอบรุ่นที่ 3 การได้นั่งตำแหน่งครั้งนี้เขาก็ยอมรับว่า ‘ปฏิเสธไม่ได้’ ว่าการเป็นทายาทตระกูลชิดชอบนั้นส่งผลบวกต่อตนเอง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานต่อประชาชนและสมาชิกพรรคด้วยเช่นกัน
กรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย “เสี่ยแชมป์” กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง ลูกชายคนที่ 2 แห่งบ้านใหญ่ปริศนานันทกุล, “โกแพ” วรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส. สตูล สมัยที่ 2, “โกธาม” ชลัฐ รัชกิจประการ สส. บัญชีรายชื่อ ลูกชาย พิพัฒน์-นาที รัชกิจประการ แม่ทัพภาคใต้, “เสี่ยอ๋อง” ธนยศ ทิมสุวรรณ สส.เลย ลูกชายคนเดียวของ ธนาวุฒิ ทิมสุวรรณ อดีตนายก อบจ.เลย 5 สมัย, “เสี่ยบีม” จักรกฤษณ์ ทองศรี สส.บุรีรัมย์ หลานชาย ทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย, “โกหนึ่ง” กิตติ กิตติธรกุล สส.กระบี่ หลานชาย สมศักดิ์ กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่ 7 สมัย ที่โชว์ฟอร์มหรูยึด 3 ที่นั่ง สส.กระบี่ ได้แบบยกจังหวัด
มีรองเลขาธิการพรรคทั้ง 3 คน “หลาชาต” เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี ลูกชาย “แม่แหม่ม” มนัญญา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ และหลานชายสุดเลิฟของ “เจ้าพ่อลุ่มน้ำสะแกกรัง” ชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย, “สส.พิม” พิมพฤดา ตันจรารักษ์ สส. พระนครศรีอยุธยา จากบ้านใหญ่วังน้อย หลานยายสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา, “กำนันนอร์ท” ภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์ สส. พิจิตร จากบ้านใหญ่ภัทรประสิทธิ์ แห่งเมืองพิจิตร หลานชาย ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต รมช.คลัง และอดีต สส. พิจิตร 4 สมัย
ส่วนอีก 2 ตำแหน่ง คือ เหรัญญิกพรรค เป็น “มาดามผึ้ง” ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และนายทะเบียนพรรคเป็นของ “สาวกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย ลูกสาว วิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ 5 สมัย
หากดูจากภายนอก “ภูมิใจไทย” พร้อมลงสนามชิงแต้มจาก “คนรุ่นใหม่” แต่เมื่อคลี่ดูไส้ในกลายเป็นพรรค “บ้านใหญ่” สมบูรณ์แบบ แตกต่างเพียงแค่ส่ง “ลูก-หลาน” มาอยู่แถวหน้าเท่านั้น
ว่ากันว่า หาก “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ รมว.คลัง ส่งสัญญาณปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) “เนวิน” ก็เตรียมจะส่ง “ไชยชนก” นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีทันทีเช่นกัน เพราะต้องการปั้นแบรนด์ให้เห็นว่าเอาจริงเอาจัง หลังตกรถเพราะอายุไม่ถึง 35 ปี เมื่อช่วงตั้งรัฐบาล “อาอุ้ม” พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ก็เลยได้นั่ง รมว.ศึกษาธิการ ขัดตาทัพไปก่อน
สะท้อนให้เห็นว่าการบริหารสไตล์ ”ครูใหญ่เน“ แม้จะหลบหลังฉาก แต่วางหมาก-วางเกม ให้ขุนพลหน้าฉากเดินตามได้ทุกย่างก้าว ภาพ “คนรุ่นใหม่” ที่ขึ้นมายกแผง จึงอาจจะไม่ใช่ทองแท้ แต่แค่ของของเก๊ทำเหมือนเท่านั้น
เพราะวันนี้ “ภูมิใจไทย” ก็ยังเป็นพรรคการเมืองของ “ตระกูลชิดชอบ” ของแทร่!! ที่ “เนวิน” ตั้งใจส่งไม้ต่อให้ “ไชยชนก” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนใช้เป็นฐานเกาะเกี่ยวในวงจรอำนาจไปยาวๆ
