รายงานล่าสุดจากกรุงพนมเปญ กัมพูชา ระบุว่า อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาจากพรรค “Cambodia National Rescue Party” (CNRP) “เขม โสคา” ถูกตัดสินในข้อหากบฏ ต้องโทษให้ถูกกักบริเวณในบ้านนานถึง 27 ปี
คำตัดสินเกิดขึ้นที่ศาลแขวงพนมเปญ ซึ่งนอกจากโทษจำคุกแล้ว อดีตผู้นำฝ่ายค้านยังต้องรับโทษถูกตัดสิทธิทางการเมืองโดยทันที
เขม โสคา ถูกจำกุมโดยตำรวจนับร้อยนายที่บ้านพักเมื่อค่ำคืนหนึ่งของเดือนกันยายน 2017 จากนั้นคดีก็เริ่มมีการไต่สวนช่วงต้นปี 2020 ก่อนจะถูกสั่งพักการไต่สวนเพราะเกิดปัญหาวิกฤตวิด-19 ก่อนจะกลับมาไต่สวนอีกครั้งในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ข้อกล่าวหาของทางการก็คือ เขม โสคา “สมคบคิดกับต่างชาติ” จึงผิดกฎหมายอาญาข้อ 443 ของกัมพูชา ซึ่งข้อกล่าวหาดังกล่าว ได้รับการประนามจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาว่า เป็นข้อกล่าวหาที่มีนัยยะทางการเมืองมากกว่าที่จะกระทำผิดจริง
หลังจากถูกจำกุม ตัวของเขม โสคา ก็ถูกนำไปคุมขังที่เรือนจำห่างไกลในชนบท และได้รับการปฏิเสธไม่ให้ประกันตัวหลายครั้ง ก่อนที่จะมีการอนุญาตให้พักโทษได้ในเวลาต่อมา ส่วนพรรค CNRP ก็ถูกยุบไป
ในการไต่สวนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เขม โสคา ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับต่างชาติและนำอิทธิพลต่างชาติมาสู่การเมืองตั้งแต่ยังทำงานเป็นสิทธิมนุษยชนช่วงปี 1993 และถูกกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงกับ “สม รังษี” อดีตผู้นำฝ่ายค้านอีกคนหนึ่งที่กำลังลี้ภัยทางการเมืองอยู่ในปารีส เพราะทั้งคู่ได้รวมพรรคเข้าด้วยกันจนกลายเป็น CNRP ในปี 2012
การจับกุมเขม โสคา ในปี 2017 นั้น เป็นการจับกุมตัวผู้นำฝ่ายค้านกลางศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมีในช่วงต้นปี 2018 หลังจากที่มีโพลจำนวนมากชี้ให้เห็นว่า เขม โศคา และ พรรค CNRP ได้รับคะแนนนิยมอย่างท้วมท้น และกลายเป็นกระแสทางการเมืองที่ท้าทายสถานะของรัฐบาลสมเด็จฮุน เซน ดังนั้น หลายฝ่ายจึงชี้ว่า การกระทำครั้งนี้ของรัฐ เป็นไปเพื่อการปกป้องรักษาอำนาจอันยาวนานของฮุน เซน ให้อยู่ได้ต่อไป มากกว่าจะมีความผิดตามที่กล่าวหาจริง ๆ
ที่มา