วันที่ 3 พ.ค.66 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย แถลงหลังคลอดบุตรชาย ‘ธาษิณ‘ พร้อมยุทธศาสตร์เลือกตั้งโค้งสุดท้าย โดยระบุว่า หลังจากนี้จะพยามลงพื้นที่ช่วยพรรคเพื่อไทย และยืนยันจะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคเพื่อไทยในวันที่ 12 พ.ค.นี้ แน่นอน ทั้งนี้ คิดว่าออกจากโรงพยายามได้เมื่อไหร่ ก็พร้อมลุยเมื่อนั้น เพื่อนำเสนอตัวเองให้ประชาชนตัดสินใจ พร้อมที่จะออกไปพบปะประชาชนเท่าที่ทำได้ ส่วนตัวพร้อมเป็นนายกฯ และนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกคนที่พร้อมด้วยเช่นกัน
น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขอกลับบ้านเพื่อเลี้ยงหลานว่า แน่นอนว่าคุณตาก็อยากเห็นหลานในวันแรกที่เกิด แต่เมื่อไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องที่จะกลับบ้านนั้นท่านก็พูดอยู่หลายโอกาส และเมื่อมีหลานเพิ่มขึ้นมาอีกคน ท่านก็อยากกลับ แน่นอนสิ่งที่ท่านพูดนั่นมีผลสะท้อนทางด้านการเมือง แต่ในด้านครอบครัวมองว่า ไม่ผิด ที่จะมีความหวัง โดยเฉพาะในวันที่บ้านมีเรื่องดีๆ
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ส่วนจะกลับมาเมื่อไหร่วันไหนนั้นไม่ได้คุยกัน อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปทุกครั้งว่าท่านก็วางแผนชีวิตของท่านเอง
“ในส่วนของอิ๊งค์คิดว่าการที่พ่อจะกลับบ้านไม่เกี่ยวอะไรกับพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่อิ๊งค์กำลังเดินหาเสียงอยู่ แม้มันจะแยกยาก เพราะคุณพ่อเป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย หลายคนที่เชื่อมั่นในคุณพ่อก็ยังมีความหวัง และอิ๊งค์ก็เป็นลูก ก็ไม่สามารถตัดขาดได้อยู่แล้ว จึงมีความหวังต่อเนื่องกันมา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ได้กำหนด และเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ แต่คุณพ่อพูดตลอดว่าอยากกลับมาเลี้ยงหลาน เขาไม่เคยพูดว่าอยากกลับมาเป็นนายก”
“การที่เราไปอยู่ต่างประเทศนานขนาดนั้น เมื่อ 17 ปีที่แล้วถ้าคุณพ่อบอกว่า ผมไม่มีวันได้กลับ จิตใจเขาจะเป็นอย่างไร ขอแค่ความเข้าใจพื้นฐานความเป็นมนุษย์ ว่ามนุษย์ต้องมีความหวัง ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม คุณพ่อก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีความหวัง อิ๊งค์ดีใจที่หลายปีผ่านมาแล้ว เขายังมีความหวังอยู่ และเขายังพูดแบบนี้อยู่ นั่นทำให้เขามีสุขภาพแข็งแรง จิตใจดีอยู่ และทุกครั้งที่เอาหลานไปหา ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย พลังงานเต็มร้อย แน่นอนคนที่สนับสนุนครอบครัวเราก็มีความหวังไปด้วย อิ๊งค์คิดว่าความหวังเป็นเรื่องที่ดี”