เว็บไซต์ newsxtra สรุปข่าวประจำวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566 ดังนี้:
พักโทษ ‘เทพไท’ ติดกำไล EM:
นายครรชิต เสนพงศ์ น้องชายของนายเทพไท เปิดเผยว่า หลังจาก นายเทพไท เสนพงศ์ และนายมาโนช เสนพงศ์ ได้ถูกจำคุกในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช มาเป็นเวลา 16 เดือนแล้ว และเข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษหลังถูกจำคุกมาแล้ว 2 ใน 3 ตนและญาติๆ ได้รับแจ้งจากกรมราชทัณฑ์ว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.) เวลา 09.00 น. ทางเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช จะมีการปล่อยตัว นายเทพไท และนายมาโนช เสนพงศ์ พร้อมกันทั้ง 2 คน โดยมีเงื่อนไขต้องใส่กำไลEM ที่ข้อเท้าเป็นเวลา 8 เดือน
‘เศรษฐา’ สั่งพิจารณาขึ้นเงินเดือนขรก.:
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายปานปรีย์ ในฐานะประธานกรรมการข้าราชการพลเรือน รับไปเร่งรัดให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) ร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้แนวทาง กรอบระยะเวลา และผลกระทบของการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ชัดเจน และรายงานผลให้คณะรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว ภายในเดือนพฤศจิกายน 2566
‘ก้าวไกล’ จ่อลงดาบซ้ำ สส. ปูอัด:
คกบห. พรรคก้าวไกลได้นัดประชุมและลงความเห็นว่า การแถลงข่าวของ ไชยามพวาน เมื่อวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน2566 ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงการสำนึกหรือยอมรับว่า พฤติการณ์ของตนเข้าข่ายเป็นการคุกคามทางเพศ อีกทั้งยังไม่ได้ขอโทษต่อผู้เสียหายอย่างจริงใจ ตลอดจนยังได้กระทำการก่อความเสียหายต่อผู้เสียหาย จึงมีมติว่า ให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณ เพื่อดำเนินกระบวนการวินัยสมาชิกพรรคต่อไป ตามข้อบังคับพรรค โดยมีบทลงโทษขั้นสูงสุด คือ การพิจารณาขับพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคในที่ประชุมร่วมกัน ระหว่าง สส.และคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งจะเกิดขึ้นได้เร็วสุดในวันจันทร์ที่ 6 พ.ย. 2566
‘วันชัย’ หนุนลงดาบสส. ละเมิดทางเพศให้ถึงที่สุด:
นายวันชัย สอนศิริ สว. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค เพื่อแสดงความเห็นต่อกรณี ความผิดของสส.ก้าวไกล กับ การชุมนุมทางการเมือง ใครควรได้รับการนิรโทษ โดยระบุว่า การข่มขู่คุกคามทางเพศของ สส.พรรคก้าวไกลเป็นการกระทำที่ทั้งพรรคและสังคมประณาม ทั้งเป็นการกระทำที่เป็นเรื่องส่วนตัวของสส. ไม่ใช่เป็นเรื่องของประเทศชาติและประชาชนหรือเรื่องทางการเมืองแต่อย่างใด ดังนั้นการถูกขับไล่ หรือถูกสังคมประณาม หรือถูกดำเนินคดีอาญา ถือเป็นเรื่องของสส.คนนั้น ไม่ควรที่จะได้รับการอภัยหรือนิรโทษกรรมแต่อย่างใด ผิดก็ต้องผิดและต้องว่ากันให้สุด
นิด้าโพลเผย ปชช. หนุนดิจิทัลวอลเล็ค ไม่มีเงื่อนไข:
นิด้าโพล ถามถึงหลักเกณฑ์การแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท พบว่า ตัวอย่าง 50.08% ระบุว่า จ่ายทุกกลุ่มโดยไม่ต้องมีเกณฑ์เงินเดือน หรือเงินฝากในบัญชีมาเป็นข้อจำกัด เมื่อถามถึงเกณฑ์พื้นที่ หรือรัศมีการใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท พบว่า ตัวอย่าง 69.85% ระบุว่า ควรใช้จ่ายในร้านค้าใดก็ได้ ในประเทศไทย โดยไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ หรือรัศมีมากำหนด