ประกาศ! ปรับขึ้นภาษีน้ำมัน สูงสุดลิตรละ 1 บาท มีผลทันที

ปรับขึ้นอัตรา ภาษีน้ำมัน สูงสุดลิตรละ 1 บาท

(7 พ.ค. 2568) น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยถึงกรณีราชกิจจานุเบกษาประกาศปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2568 ว่า เหตุผลของการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันคือช่วยให้สถานการณ์การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตดีขึ้น เนื่องจากมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ทำให้รายได้ของกรมสรรพสามิตยังต่ำกว่าเป้าหมายค่อนข้างมาก โดยการปรับขึ้นภาษีน้ำมันครั้งนี้กำหนดให้ปรับขึ้นสูงสุดลิตรละ 1 บาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้กรมจัดเก็บรายได้เพิ่มเดือนละประมาณ 2,900 ล้านบาท

ทั้งนี้การปรับขึ้นภาษีน้ำมันจะไม่มีผลกระทบต่อราคาขายปลีก เนื่องจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติให้กระทรวงพลังงาน สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปรับลดเงินนำส่งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อไม่ให้การปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันมีผลกระทบต่อราคาขายปลีกด้วย

กรมสรรพสามิต ได้มีการหารือกับกระทรวงพลังงานแล้ว ซึ่งทางกองทุนน้ำมันจะดำเนินการเรื่องโครงสร้างราคา โดยที่ไม่ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันมีการปรับขึ้น”

สำหรับการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต และภาษีส่วนท้องถิ่น ของน้ำมันประเภทต่างๆที่มีการปรับเปลี่ยนมีรายละเอียดดังนี้

น้ำมันเบนซิน 95 จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 6.50 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 7.50 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 1 บาท
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E10) จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 5.85 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 6.75 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.90 บาทต่อลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (E10) จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 5.85 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 6.75 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.90 บาทต่อลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E20) จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 5.20 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 6.00 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.80 บาทต่อลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (E20) จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 0.975 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 1.125 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.15 บาทต่อลิตร
น้ำมันดีเซล จากเดิมเก็บภาษีสรรพสามิต 5.99 บาทต่อลิตร อัตราใหม่ 6.92 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 0.93 บาทต่อลิตร