นักวิเคราะห์การเมืองสร้างโครงเรื่องใหม่ว่า 77 เสียงที่งดออกเสียงในการเลือกรองประธานสภาคนที่หนึ่ง มีนัยยะสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการโหวตเลือกนายกฯ ในวันข้างหน้า
หนึ่งคือเป็นเสียงที่มาจากพรรคภูมิใจไทย สองคือเป็นสัญญาณดีดตัวเองออกจากขั้วการเมืองเดิม และสามคือเป็นการทอดไมตรีไปยังพรรคก้าวไกลว่าพร้อมเปิดรับการเจรจาก่อนวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์รายเดียวกัน เปิดประเด็นว่า แกนนำของพรรคก้าวไกลไปติดต่อขอพบ “เนวิน” ครูใหญ่ภูมิใจไทย เพื่อเจรจาเอา 70 เสียงมายกมือให้พิธาเป็นนายกฯ และคานอำนาจกับพรรคเพื่อไทย ทว่า “เนวิน” ตอบปฏิเสธ
นักวิเคราะห์คนเดิมย้ำอีกว่า 70 เสียงของพรรคภูมิใจไทย จะช่วยทำให้พิธาได้เป็นนายกฯ และปิดสวิตช์ ส.ว. ลงในทันที
อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์การเดินเกมของพรรคภูมิใจไทย จำเป็นต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคได้ประกาศออกมาก่อนหน้านี้
เมื่อ 17 พ.ค. 2566 พรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ ประกาศชัด ไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิก ม.112 และเมื่อถึงวันใกล้โหวตตำแหน่งประธานรัฐสภา อนุทินก็ย้ำในแนวทางเดียวกัน
แถลงการณ์ดังกล่าวมีนัยยะที่น่าสนใจในหลายประเด็น
(1) จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยคือ ไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
(2) จุดยืนนี้เป็นหลักการสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง หรือต่อรองได้
(3) พรรคภูมิใจไทยจึงไม่สามารถลงมติสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ได้
(4) การเรียกร้อง ข่มขู่ กดดัน ต่อพรรคภูมิใจไทย ให้สนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะไม่มีผลให้พรรคภูมิใจไทย และสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์และจุดยืนได้
(5) หากการจัดตั้งรัฐบาลที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ประสบผลสำเร็จ พรรคภูมิใจไทย พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เพื่อประโยชน์ของประชาชน และปกป้องสถาบันสำคัญของชาติอย่างสุดความสามารถ
(6) พรรคภูมิใจไทยได้สอบถามความเห็นว่าที่ส.ส.ของพรรคทั้ง 68 คน รวมถึงผู้สมัครรับเลือกตั้งอีกประมาณ 300 คน ซึ่งกระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ได้รับข้อมูลตรงกันว่าประชาชนผู้ลงคะแนนให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทยมากกว่า 5 ล้านคน มีความเชื่อมั่นว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคการเมืองหลัก ทำหน้าที่ปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ
ไม่เพียงแต่ร่อนแถลงการณ์ประกาศชัด แต่ครั้งหนึ่ง “เนวิน” ให้สัมภาษณ์ชัดเจนถึงจุดยืนของเขาในการปกป้องสถาบันกษัตริย์
“เนวิน” เล่าถึงที่มาของเสื้อทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ที่เป็นสีน้ำเงิน ว่า สีน้ำเงินมาจากธงชาติ แถบน้ำเงินตรงนั้นแหละ ชีวิตจิตใจของผม และคือความตั้งใจของผม หน้าสนามเราก็มีรูปหล่อพระเจ้าอยู่หัวให้คนกราบไหว้บูชา นี่มันอยู่ในส่วนลึก เพราะเรารู้ว่าแผ่นดินนี้เป็นของใคร เรามีแผ่นดินอยู่ทุกวันนี้ เรามีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ เพราะใครสร้างมา เมืองบุรีรัมย์ เป็นเมืองที่ปฐมราชวงศ์จักรีคือสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เป็นคนมาตั้ง เพราะฉะนั้นเราต้องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณนี้ แล้วเมื่อเราคิดว่าสีประจำทีมเราคืออะไร คือสีน้ำเงิน เพื่อเราจะบอกว่า ใครจะว่าเราเป็นรอยัลลิสต์ก็ไม่เป็นไร พูดตรงๆ นะ กูเป็น เราก็เป็นแบบนี้ ไม่มีทางเปลี่ยนวิธีคิดเราได้
กลับไปอ่านแถลงการณ์อีกสักหน เพื่อย้ำว่า จุดยืนการปกป้องสถาบันกษัตริย์ของพรรคภูมิใจไทย ถือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง หรือต่อรองได้!!