ทุกพรรคการเมืองลงสู่สนามเลือกตั้ง เพื่อหวัง “อำนาจรัฐ” มาอยู่ในมือ การต่อรองเก้าอี้ในคณะรัฐมนตรีคือจุดที่ใฝ่ฝัน พรรคไทยสร้างไทยไม่พ้นจากเป้าหมายนี้
ในฤดูเลือกตั้ง “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เดินสายทั่วประเทศประกาศว่า “เลือกไทยสร้างไทย ไม่ได้ลุงคนไหนกลับมาทั้งสิ้น”
นัยยะของประโยคนี้มีอยู่ 3 ลุง คือ ประยุทธ์, ประวิตร และนายเก่า “ทักษิณ ชินวัตร”
“ศิธา ทิวารี” อดีตเลขาธิการพรรค แคนดิเดตนายกฯของพรรค ผู้เล่นสำคัญของพรรค เดินสายดีเบตทั่วประเทศ กดดันให้พรรคเพื่อไทย ประกาศให้ชัด “มีลุง-ไม่มีเรา”
เป็นที่มาให้ “ชลน่าน ศรีแก้ว” ใช้ตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นเดิมพัน ทั้งเป็นที่มาให้นายใหญ่คนแดนไกล กาชื่อ “ศิธา” ออกจากลิสต์รายชื่อคนที่สามารถไปพบหาในต่างประเทศได้ตลอดเวลา
เกมนี้แลกด้วยความสัมพันธ์ จากคนที่เข้านอกออกใน คุยไลน์ได้ตลอดเวลา กลายเป็นคนอื่นคนไกล ดังที่ศิธาได้เล่าความหลังเมื่อวันก่อนในรายการของสรยุทธ
หลังเลือกตั้งจบลง พรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงเป็นลำดับที่ 1 และพรรคเพื่อไทยมาเป็นลำดับที่ 2 ในระยะแรกของการจัดตั้งรัฐบาล “คุณหญิงสุดารัตน์” ตบเท้าร่วมคณะเจรจาด้วยทุกครั้ง รวมทั้งเข้าสภารายงานตัวเป็น สส.
ก่อนตัดสินใจวางมือในสภาฯ กลับมาคุมงานพรรคหลังบ้าน มีนัยยะที่ซ่อนอยู่คือ (1) เปิดโอกาสให้ “ฐากร” นายทุนคนสำคัญในช่วงเลือกตั้ง เข้ามาเป็น สส.ในสภา และมีบทบาทในการจัดตั้งรัฐบาล (2) ถอยฉาก เพื่อรักษาระยะห่างต่อพรรคก้าวไกล ซึ่งยังคงยืนกรานแก้ไข ม. 112
วันนี้ พรรคไทยสร้างไทย อยู่ในมือ “ฐากร-สุพันธ์ุ” ซึ่งให้สัมภาษณ์ว่ากำลังจับตาดูการจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย
แนวโน้มสำคัญคือเข้าร่วมรัฐบาลบนเงื่อนไข ไม่มีสองลุงร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ทว่าบนข้อเท็จจริงทางการเมือง เป็นไปไม่ได้ที่เพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลโดยไร้สองลุง
การเคลื่อนเกมต่อรองทางการเมืองของ “ฐากร-สุพันธ์ุ” เป็นที่มาให้ “ศิธา” ประกาศทางเฟสบุ๊คส่วนตัวในท่วงทำนอง “มีลุง-ไม่มีศิธา”
ย้ำจุดยืนของตัวเองว่าหากพรรคไทยสร้างไทย เข้าร่วมรัฐบาลเพื่อไทยที่มีสองลุง ศิธาจะไม่ไปด้วย นั่นหมายถึง อาจพิจารณาลาออกจากพรรคไทยสร้างไทย
