“จุรินทร์” เผย 15 สส.ปชป. เตรียมจองกฐินอภิปรายนโยบายรัฐบาล เน้นย้ำ “ฝ่ายค้านของประชาชน”
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2566 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ปชป. ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมตัวอภิปรายการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ว่า พรรคจะได้อภิปรายครบทั้ง 3 ด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในนโยบายที่รัฐบาลจะได้แถลง ขณะนี้มี สส. ในพรรคแสดงความจำนงที่จะอภิปรายไว้แล้ว 15 คน ซึ่งตนจะเป็นผู้อภิปรายคนแรก และถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็น่าจะเป็นคนที่ 2 ถัดจากพรรคก้าวไกล
จากนั้นจะมี นายชวน หลีกภัย และมี สส. ของพรรคอีกหลายคนที่ได้เตรียมการอภิปรายไว้ โดยจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล สำหรับแนวทางการอภิปรายนั้นจะเป็นการอภิปรายแบบสร้างสรรค์ ตรงไปตรงมาตามเนื้อผ้าของนโยบาย ซึ่งพรรคพร้อมที่จะให้คำเสนอแนะ รวมทั้งให้ความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา และการตั้งคำถามบางคำถามที่บางนโยบายยังขาดความชัดเจน ถือเป็นการตั้งคำถามแทนประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้ทราบว่าสุดท้ายแล้วคืออะไร อย่างไร เพราะต้องยอมรับตามความเป็นจริงว่าบางเรื่องยังมีความคลุมเครืออยู่มาก และเมื่อดูเนื้อหานโยบายในภาพรวมทั้งหมด ก็ไม่ตรงปกจริงอย่างที่วิจารณ์กันอยู่
“ส่วนรายละเอียดขอรอวันที่จะมีการอภิปรายจริง มีหลายนโยบายขอไปพูดวันนั้น บางเรื่องที่สัญญาไว้ตอนหาเสียงก็ไม่มี แล้วก็ไม่มีเยอะด้วย ไม่ใช่ไม่มีแค่นโยบาย สองนโยบาย อันนี้ก็จะให้ความเห็นตามเนื้อผ้า ตรงไปตรงมา ไม่มีอคติอะไรทั้งสิ้น เพราะผมเรียนแล้วว่าจะเป็นการอภิปรายแบบสร้างสรรค์จริงๆ ให้เป็นประโยชน์กับการบริหารราชการแผ่นดินต่อไปของรัฐบาล และให้เกิดประโยชน์สูงสุดจริงๆ กับประชาชนผู้ลงคะแนนเสียงมา” นายจุรินทร์ กล่าว
เมื่อถามว่า ได้มีการตกลงเวลากับพรรคก้าวไกลอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้ตกลงกันแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ได้เวลาในการอภิปราย 2 ชั่วโมง 15 นาที ความจริงเราอยากได้มากกว่านั้น อยากได้ 3 ชั่วโมง เพราะฝ่ายค้านมี 14 ชั่วโมง แต่เมื่อได้เท่านี้ก็ไม่เป็นไร ไม่ได้มีปัญหาอะไร เราก็ทำหน้าที่ของเรา เพราะเสียงเราก็ไม่มากนัก แต่ก็ตั้งใจว่าอยากสัก 3 ชั่วโมง แต่เมื่อไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร ไม่ขัดข้องหมองใจอะไร แม้จะเป็นข้อจำกัด แต่ก็จะใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ที่สุด
ส่วนการอภิปรายจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่นั้น เพราะที่ผ่านมา มีการโหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ไม่ได้แปลว่าเป็นการสนับสนุนรัฐบาล การลงมติครั้งนั้นก็เป็นเรื่องการลงมติครั้งนั้น และเป็นเรื่องในพรรคที่ได้มีการพูดคุยกันแล้ว แต่การทำหน้าที่ถัดจากนี้ไปประชาธิปัตย์ ก็ทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งตนก็ประกาศไปชัดเจน และเราจะทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ
“รัฐบาลบอกว่าเป็นรัฐบาลประชาชน ฝ่ายค้านก็เป็นฝ่ายค้านประชาชน เพราะมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเช่นเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ประชาธิปัตย์ก็พร้อมทำหน้าที่ ไม่มีอะไรน่ากังวล ทุกคนก็จะทำหน้าที่ร่วมกัน ในทิศทางเดียวกัน” นายจุรินทร์ กล่าว
ส่วนที่ถามว่า จะสามารถทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลได้หรือไม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา พรรคการเมืองที่ไม่ไปเป็นรัฐบาลก็ต้องมาร่วมทำงานกันในฐานะฝ่ายค้าน อันนี้เป็นภาคบังคับของระบบรัฐสภา ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และการทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลนั้น ตนก็เคยเรียนไปแล้ว และขอย้ำวันนี้อีกครั้งว่า อะไรที่ต่างกัน ประชาธิปัตย์ก็จะยังคงจุดยืนในเรื่องความแตกต่างนั้น ซึ่งถือว่าเป็นจุดยืนที่เราต้องรักษา
เช่น ไม่แตะมาตรา 112 ที่เป็นเรื่องที่ประชาธิปัตย์ต้องยึด แล้วได้ประกาศไปตั้งแต่ต้น แต่อะไรเป็นเรื่องที่ต้องทำหน้าที่ร่วมกัน เช่นการตรวจสอบรัฐบาลด้วยกัน เรื่องนี้ก็ไม่มีปัญหา เพราะถือเป็นหน้าที่ของคนที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็ต้องตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน สำหรับประชาธิปัตย์แล้ว เชื่อว่าก้าวไกลเขาก็คงตระหนัก เข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่า จะมีการแบ่งปันข้อมูลกันหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น และการอภิปรายนโยบายก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการการเมืองไทย แต่เป็นเรื่องที่ทุกพรรคก็น่าจะรู้หน้าที่ดีอยู่แล้ว