กิน “ผักใบเขียว” แล้ว “สมอง” ไม่เสื่อม นักวิชาการชี้ ช่วยลดความเสี่ยง “อัลไซเมอร์”

ผลการศึกษาล่าสุดจากมหาวิทยาลัยชิคาโก ได้ชี้ให้เห็นว่า การทานผักใบเขียว ส่งผลให้มีโปรตีนในสมองที่เป็นสาเหตุของโรค “อัลไซเมอร์” มีน้อยลงเมื่อเทียบกับการไม่รับประทาน

งานชิ้นนี้ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Neurology ได้แสดงถึงผลการวิเคราะห์สารอาหารและบทบาทของมันที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งพบว่าการที่รับสารอาหารจากผักที่มีใบเขียว สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้อย่างเห็นได้ชัด

ทีมวิจัยศึกษาจากอาหารแบบ “เมดิเตอเรเนียน” ที่จะประกอบไปด้วยผักใบเขียว ผลไม้ และปลา โดยพบว่า การรับประทานอาหารแบบนี้ ช่วยทำให้สมองมีอายุเยาว์วัยและแข็งแรงอยู่เสมอ ๆ

ปูจา อากาวัล หนึ่งในทีมวิจัยอธิบายว่า “ผลที่รับค้นพบน่าทึ่งมาก แน่นอนว่าการปรับการกินก็เป็นสิ่งหนึ่งในการต่อสู้กับโรค แต่การที่กินผักใบเขียวเยอะ ๆ เช่นมากกว่า 6 มื้อต่อสัปดาห์ และไม่กินของทอด ส่งผลช่วยจริง ๆ ให้ไม่เกิดอะมีลอยด์ในสมอง ซึ่งเท่า ๆ กับว่าทำให้สมองของเราเด็กลงกว่า 4 ปี เลยทีเดียว”

ด้วยเหตุนี้เอง ทีมวิจัยจึงชี้ว่า การทานผักใบเขียวมาก ๆ ทำให้เห็นสัญญาณการเกิดขึ้นของโณคอัลไซเมอร์ในสมองได้น้อยลง ดังนั้นผู้คนควรจะเริ่มหันมาเพิ่มผักใบเขียวให้กับมื้ออาหารของตัวเอง

จากกลุ่มตัวอย่างในการทดลองกว่า 581 ราย ในวัยโดยเฉลี่ย 84 ปี ทั้งการทดสอบช่วงมีชีวิตอยู่และหลังจากเสียชีวิต ก็พบว่า ผู้เข้าร่วมการทดลงที่ทานอาหารแบบเมดิเตอเรเนียนหรือมีมื้ออาหารที่มีผักใบเขียวเยอะ จะมีอาการหรือสัญญาณความเสี่ยงต่อโรคน้อยกว่า หรือใครที่มีอาการอยู่แล้วก็จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งไปกว่านั้น บางราย เมื่อทำการตรวจสอบสมองถึงกับพบว่า มีอายุสมองน้อยกว่าอายุจริงถึง 19 ปีเลยทีเดียว

ที่มา

https://www.dailyrecord.co.uk/news/health/alzheimers-study-names-vegetable-linked-29415934#