เจ้าสัว GULF รวย 1.9 แสนล้าน ขึ้นแท่นอันดับ 1 เศรษฐีหุ้นไทย

“สารัชถ์ รัตนาวะดี” แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2566 ถือหุ้น GULF-ITC รวย 1.9 แสนล้านบาท

วันที่ 12 ธ.ค.66 วารสารการเงินธนาคาร เผยแพร่ผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยปี 2566 ใน วารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนธันวาคม 2566 ปรากฏว่า แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2566 ยังคงเป็นของ สารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF

ซึ่งเป็นการครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 แล้ว โดยถือหุ้นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวม 190,828,06 ล้านบาท ลดลง 28,153.53 ล้านบาท หรือ 12.86%

นอกจากสารัชถ์จะถือหุ้น GULF สูงเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วน 35.67% คิดเป็นมูลค่า 190,421.51 ล้านบาทแล้ว ในปีนี้ยังถือหุ้น บมจ.ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) บริษัทในกลุ่มไทยยูเนี่ยนที่ทำธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงส่งออกทั่วโลกอีก 0.67% มูลค่า 406.55 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปีนี้ความมั่งคั่งจะลดลงไป แต่ตลอด 5 ปีของการครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย มูลค่าหุ้นที่สารัชถ์ถือครองก็อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ทุกปี ซึ่งนับเป็นมูลค่าสูงสุดในทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยตั้งแต่ปี 2537 จนถึงปัจจุบัน

โดยในปี 2562 ซึ่งเป็นปีแรกที่ก้าวขึ้นครองแชมป์ สารัชถ์มีความมั่งคั่งรวม 120,959.99 ล้านบาท ต่อมาในปีที่ 2563 ความมั่งคั่งลดลงไปเล็กน้อยที่ 115,289.99 ล้านบาท ก่อนทะยานสู่ 173,099.73 ล้านบาท ในปี 2564

และพุ่งทะลุไปถึง 218,981.58 ล้านบาท ในปี 2565 จนล่าสุดลดลงมาที่ 190,828.06 ล้านบาท ในปี 2566

เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ได้แก่ นิติ โอสถานุเคราะห์ นักลงทุนรายใหญ่ ทายาทอาณาจักรโอสถสภา โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 61,790.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,666.61 ล้านบาท หรือ 6.31% ซึ่งพอร์ตการลงทุนที่มีชื่อนิติเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรกในปีนี้ยังคงอยู่ใน 8 บริษัท โดยถือหุ้นในสัดส่วนใกล้เคียงกับปีที่แล้ว

เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ได้แก่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ หมอเสริฐ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส

โดยถือครองหุ้น บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) และ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) มูลค่ารวม 57,001.68 ล้านบาท ลดลง 5,734 ล้านบาท หรือ 9.14%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ได้แก่ ปณิชา ดาว โดยยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 ของ บมจ.พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น (PSG) ในสัดส่วน 80% รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 41,595.20 ล้านบาท ลดลง 40,035.38 ล้านบาท หรือ 49.04%

สำหรับ PSG ได้มีกลุ่มทุนจาก สปป.ลาว นำโดย เดวิด แวน ดาว สามีของปณิชา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท หลวงพระบาง พาวเวอร์ ในนาม บริษัท พีที จำกัดผู้เดียว (PTS) เจ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง ที่ สปป.ลาว เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มใหม่ในปี 2564

เศรษฐีอันดับ 5 ได้แก่ ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ ทายาทหมอเสริฐ โดยยังคงถือหุ้น BDMS ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับปีที่แล้วคือ 5.18% และถือหุ้น BA ในสัดส่วนเดิมที่ 6.49%

ส่วน บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ONEE) ปีนี้ได้ลดการถือหุ้นจาก 40.04% เหลือ 25.05% ส่งผลให้มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 26,634.59 ล้านบาท ลดลง 8,367.28 ล้านบาท หรือ 23.91%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 6 และ อันดับ 7 ได้แก่ สองเจ้าของ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) หรือชื่อเดิมคือ เมืองไทยลิสซิ่ง โดย ชูชาติ เพ็ชรอำไพ อยู่ในอันดับ 6 รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 25,933.90 ล้านบาท ลดลง 584.17 ล้านบาท หรือ 2.20% โดยถือหุ้น MTC 33.49% และ บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) 3.12%

ส่วน ดาวนภา เพ็ชรอำไพ อยู่ในอันดับ 7 ถือหุ้น MTC 33.96% มูลค่า 25,920 ล้านบาท ลดลง 180 ล้านบาท หรือ 0.69%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 8 ได้แก่ นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี นักลงทุนรายใหญ่ที่ปีนี้มีพอร์ตการลงทุนมูลค่ารวม 22,462.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,181.71 ล้านบาท หรือ 99.12% ความมั่งคั่งในพอร์ตหุ้นของหมอพงศ์ศักดิ์ที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว

โดยเมื่อคลี่พอร์ตหุ้นออกมาดูพบว่า หุ้นที่หมอพงศ์ศักดิ์เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก เพิ่มขึ้นเป็น 14 บริษัท จาก 7 บริษัทเมื่อปีที่แล้ว

เศรษฐีหุ้นอันดับ 9 ได้แก่ อนันต์ อัศวโภคิน บิ๊กอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ แบรนด์ “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” ถือหุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) สูงเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วน 23.93% มูลค่า 22,308 ล้านบาท ลดลง 3,146 ล้านบาท หรือ 12.36%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 10 ได้แก่ สุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น (COM7) เจ้าของธุรกิจค้าปลีกสินค้าด้านไอที โดยถือหุ้นรวมมูลค่า 21,387.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,381.50 ล้านบาท หรือ 94.33%

ซึ่งปีนี้พอร์ตหุ้นที่สุระเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรกเพิ่มขึ้นเป็น 17 บริษัทจาก 11 บริษัทเมื่อปีที่แล้ว โดยสุระเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ บมจ.คอมเซเว่น (COM7) ในสัดส่วน 25.05% และ บมจ.เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล (WAVE) ในสัดส่วน 7.56%

ส่วน บมจ.เอ็ม วิชั่น (MVP) สุระถือหุ้น 9.30% สูงเป็นอับดับ 2 รองจากผู้ถือหุ้นอันดับ 1 คือ Capital Asia Investment ที่ถือหุ้น 14.62%

ข้อมูลจากเว็บไซต์ วารสารการเงินธนาคาร