เปิดประวัติมาเฟียอิตาลี หลังหนีการจับกุมมากว่า 30 ปี

มัตเตโอ เมสซีนา เดนาโร หัวหน้าแก๊งมาเฟียซึ่งเป็นผู้ต้องหาหมายเลข 1 ที่ทางการตัวอิตาลีต้องการตัวถูกจับแล้วในคลินิกรักษามะเร็งในซิซิลีหลังจากหลบหนีมา 30 ปี

โดย เมสซีนา เดนาโร ผู้ต้องหาหมายเลข 1 ของอิตาลี ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียซึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานช่วยบงการการสังหารที่เลวร้ายที่สุดของประเทศ ถูกจับกุมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังหลบหนีการจับกุมไปกว่า 30 ปีโดยการจับกุมครั้งที่ผ่านมาเขาถูกจับระหว่างไปรับการรักษาโรคมะเร็งที่คลินิกเอกชนในซิซิลี

มัตเตโอ เมสซีนา เดนาโรถูกพิจารณาคดีและถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีฆาตกรรมหลายสิบครั้ง รวมถึงการช่วยบงการร่วมกับหัวหน้ามาเฟียคนอื่นๆ กับวางระเบิดในปี 1992 และทำให้ทางการอิตาลีเข้มงวดในการปราบปราม

โดยเขาต้องเผชิญกับโทษจำคุกตลอดชีวิตหลายรายการซึ่งคาดว่าจะต้องรับโทษในเรือนจำที่มีความปลอดภัยสูงสุดและอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวดเป็นพิเศษซึ่งสงวนไว้สำหรับหัวหน้าแก๊งอาชญากรชั้นนำ

ระหว่างที่ Carabinieri Col. Lucio Arcidiacono เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าวช่วงค่ำในเวลาต่อมาโดยกล่าวว่าการรักษาของเมสซีนา เดนาโร อาจดำเนินต่อไปในหอผู้ป่วยในของโรงพยาบาล ทั้งนี้ระหว่างการจับกุมเขาไม่มีอาวุธและแต่งตัวเหมือนคนไข้ทั่วไปที่คลินิก และสวมนาฬิกามูลค่าอย่างน้อย 30,000 ยูโร (ประมาณ 33,000 ดอลลาร์) โดยเขาไม่ได้ต่อต้านเลย”

แน่นอนว่าเรื่องนี้ เป็นข่าวดังไปชั่วข้ามคืนของอิตาลี พร้อมกับความสำเร็จที่ตามมา หลังปรากฏภาพเจ้าหน้าที่ Carabinieri คู่หนึ่งจับแขนทั้งสองข้างพา เมสซีนา เดนาโรลงบันไดหน้าคลินิกไปยังรถตู้สีดำที่จอดรออยู่ท่ามกลางสายฝนโดย ขาสวมแจ็กเก็ตหนังสีน้ำตาล โดยใบหน้าดูซีดเซียวพร้อมกับอาการป่วย

ต่อมา จอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลีทวีตว่าการจับกุมเมสซีนา เดนาโรเป็น “ชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของรัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่ยอมแพ้ต่อหน้ามาเฟีย”

สำหรับหัวหน้าแก๊งมาเฟียชาวอิตาลีที่สร้างสถิติใช้เวลานานที่สุดคือ Bernardo Provenzano เขาถูกจับในบ้านไร่ใกล้กับคอร์เลโอเน ซิซิลี ในปี 2549 หลังจากลี้ภัยมา 38 ปี เมื่อ Provenzano อยู่ในมือของตำรวจ การตามล่ามุ่งเน้นไปที่ Messina Denaro ซึ่งพยายามหลบหนีการจับกุมแม้จะมีรายงานการพบเห็นหลายครั้ง รวมถึงในภาคเหนือของอิตาลี

และการจับกุมมาเฟียชื่อดังครั้งนี้จึงเป็นที่ลบครหาของคนสังคมอิตาลีได้ว่า รัฐไม่ได้เพิกเฉยต่อการปราบปรามอาชญากรรมอย่างที่เคยพูดมา ต้องรอติดตามว่า จะมีการสะสางและปราบปรามผู้ต้องหาที่หลบหนีอีกหรือไม่หลังจากนี้