ญี่ปุ่นหนุนใส่เสื้อคอเต่า เพื่อประหยัดพลังงาน

เสื้อสเวตเตอร์คอโปโลกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในญี่ปุ่นหลังจากที่ Yuriko Koike ผู้ว่าการกรุงโตเกียวเรียกร้องให้ประชาชนปกปิดร่างกายและให้ความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาวด้วยเสือคอเต่า (polo neck jumper) และเรียกร้องให้พนักงานของเธอเป็นแบบอย่างให้กับประชาชนในการสวมใส่

ความคิดริเริ่มที่ทันสมัยนี้เองมีขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนลดการใช้พลังงานเนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเนื่องจากสงครามยูเครนและช่วยเมืองลดการปล่อยมลพิษจากพลังงาน

เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับแคมเปญนี้ของเธอด้วยการสวมเสื้อผ้าที่รู้จักกันในชื่อเสื้อคอเต่า ซึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์เมื่อหลายสิบปีก่อน รุ่นที่เรียกว่า Beatnik ต่อมามาเป็นกระแสอีกครั้งเมื่อดาราและนักแสดงหญิงอย่าง Audrey Hepburn ช่วยทำให้เป็นที่นิยม และล่าสุดตามมาด้วย Steve Jobs อดีตซีอีโอของ Apple  ที่นำเทรนด์ดังกล่าว

จากการหนุนการใส่เสื้อคอเต่าเพื่อประหยัดพลังงานดังกล่าว หนังสือพิมพ์ Asahi รายงานว่า “ดูเหมือนเพียงชั่วข้ามคืน พนักงานและบุคลากรอาวุโสต่างรีบไปซื้อเสื้อคอเต่าเพื่อช่วยผลักดันข้อความนี้ไปสู่สาธารณะชน”

ข้าราชการแทบทุกคนที่เข้าร่วมพิธีทำเครื่องหมายข้อตกลงระหว่างโตเกียวและสมาคมพลังงานไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ของญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เป็นภาพที่เห็นได้ชัดเจนในการสวมคอโปโล

Koike สวมชุดสีขาวในโครงร่างแคมเปญของเธอ โดยประกาศว่า “การรักษาคอให้อบอุ่นทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมากในสภาพอากาศหนาวเย็น ป้องกันหวัดได้และยังช่วยลดการใช้พลังงานอีกด้วย”

Kentaro Uehara โฆษกของกรุงโตเกียว กล่าวว่าแคมเปญประหยัดพลังงานก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะโครงการ Cool Biz ที่สนับสนุนให้ผู้คนเลิกใช้เนคไทและแจ็กเก็ตแบบเป็นทางการสำหรับเสื้อเชิ้ตแขนสั้นคอเปิดในช่วงฤดูร้อนที่ร้อนระอุ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จอย่างมากจนเมืองนี้กำลังมองหาวิธีใหม่ๆ ในการลดการใช้พลังงานและการปล่อยมลพิษ

ความสำเร็จของ “Cool Biz” ซึ่งเป็นที่ยอมรับในแวดวงธุรกิจของญี่ปุ่นที่โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ชอบแต่งตัวรัดกุมหันมาแต่งตัวสบายๆ มากขึ้นเริ่มตั้งแต่ปี 2006 และหวังว่าเสื้อคอเต่านี้จะกลายเป็นกระแสการแต่งตัวของชาวญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาวนี้

และก่อนหน้านี้มีความพยายามของ Japan Sports Agency ในฤดูร้อนปี 2018 ที่หนุนให้คนใช้ “รองเท้าผ้าใบ” เพื่อการโน้มน้าวใจให้คนงานหลายล้านคนเปลี่ยนรองเท้าหนังเป็นรองเท้าผ้าใบ รองเท้าเทรนเนอร์เพื่อให้คนทำงานหันมาออกกำลังกายและเดินทางด้วยเท้ามากขึ้น

อย่างไรก็ตามใช่ว่าจะมีคนเห็นด้วยไปทั้งหมดเมื่อหนังสือพิมพ์ Asahi ได้ลงบทบความเร็วๆ นี้ โดยกล่าวว่าคำขอของผู้ว่าการ “ทำให้ฉันรู้สึกราวกับว่าฉันเป็นเด็กที่ต้องได้รับการบอกว่าควรแต่งตัวอย่างไร และนั่นทำให้ฉันหงุดหงิดมาก”

“คุณใส่สิ่งที่คุณอยากใส่ ไม่ต้องสนใจเหตุผล” นักเขียนบทความสรุป

และกระแสเสื้อคอเต่าจะเป็นเทรนด์การแต่งตัวตลอดช่วงฤดูหนาวนี้ได้มากน้อยแค่ไหนคงต้องรอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์