ฉันบวบ ผัดไทย บ้องข้าวหลาม น้ำกะทิ พิษ(สงฆ์)ทางใจ

เป็นประเด็นอย่างต่อเนื่องสำหรับวงการสงฆ์ไทยตั้งแต่ต้นปี กรณีข่าวฉาวหลังต้องอาบัติเผชิญทุกข์พิษสง (ฆ์) ทางใจ และจนถึงตอนนี้ยังคงมีประเด็นให้ตั้งคำถามถึงความเหมาะสม จนภาษาข่าวหยิบยกที่จะเอามาใช้แทนการกล่าวถึงอย่างตรงๆ ตั้งแต่เหตุการณ์ฉันบวบ จนล่าสุด บ้องข้าวหลามก็เริ่มมา หลายคนไม่เข้าใจจนอาจนึกว่า ตอนนี้สงฆ์ไทยกำลังเปิดร้านอาหารอยู่หรือไม่? วันนี้พาไปดูคำข่าวแบบรวบรัดตัดจบในหนึ่งเดียว พร้อมไทม์ไลน์เหตุการณ์ที่มาที่ไปของคำข่าวนั้นๆ อีกครั้ง

“ฉันบวบ”

เริ่มต้นที่ด้วยคำว่า “ฉันบวบ”เป็นความหมายคำที่ใช้เรียกเพื่อเปรียบเปรย ถึงท่าการร่วมรักระหว่างชายกับชาย โดยบวบแทนถึงอวัยวะเพศของอีกฝ่าย หรือการกระทำโดยออรัลเซ็กส์

ที่มาของคำดังกล่าวถูกหยิบยกขึ้นโดยอดีตพระมหาไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ แพรรี่ ไพรวัลย์ ที่ได้ออกมาโพสต์ข้อความแฉ “พระฉันบวบ” เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 29 ม.ค. 2566  ระบุข้อความว่า “ตายแล้ว มีคนส่งรูปพระฉันบวบมาให้ดิฉันดู ทราบว่าเป็นถึงรองเจ้าตำบลด้วย เป็นพระวัดหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ ชอบปลุกเสก ออกพระออกเหรียญให้คนบูชา”

และโพสต์ข้อความต่อมาว่า “พระมหารูปหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ ที่เป็นรองเจ้าคณะตำบล ชอบปลุกเสก ขายวัตถุมงคล เลี้ยงเด็กหนุ่ม ดิฉันให้เวลาท่าน 3 วันในการสละผ้าเหลือง ถ้าไม่สละ ดิฉันจะเอาภาพฉันบวบของท่านไปให้สื่อ”

จากข้อมูลดังกล่าวถูกอ้างว่าคือ พระมหานพพล เจ้าอาวาสวัดหางน้ำ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ โดยมีพฤติกรรมเลี้ยงเด็กชายเอาไว้บำเรอกาม แถมยังเอาเงินไปซื้อรถยนต์ให้กับเด็กผู้ชายคู่ขา และหลังการออกมาแฉดังกล่าวมีรายงานว่า พระมหานพพลได้หนีไปแอบสึกออกจากการเป็นพระ กลายเป็นนายนพดลแล้ว

“ผัดไทย”

คำเต็มมาจากคำว่า “ฉันผัดไทย” ที่แปลว่า สลับกันทำ ผลัดกันทำ ผลัดรุกผลัดรับ ผลัดกันอมบวบ (อวัยวะเพศ) ให้แก่กัน

เหตุการณ์ดังกล่าวมาจากเฟซบุ๊กเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว2” วันที่ 12 ก.พ. 2566 ได้โพสต์ภาพที่ทำให้วงการผ้าเหลืองต้องร้อนฉ่าอีกครั้ง เมื่อมีผู้ชายคนหนึ่ง ถ่ายภาพขณะพระรูปหนึ่ง เดินเข้าไปในห้องน้ำกับผู้ชายคนหนึ่ง

พร้อมแคปชั่นระบุว่า “ฉันเพลเจริญอ็อก…หลวงพี่สะดวกอมบวบและนั่งฉันผัดไทยอย่างเมามัน หลังโยมหนุ่มจัดถวายที่ห้องน้ำสาธารณะแห่งหนึ่ง โดยมีโยมที่อยู่ห้องข้างๆ สงสัยเห็นพระเดินตามผู้ชายคนนึงเข้าไปในห้อง จากนั้นมีเสียงซวบๆ ดังมาเป็นระลอก จึงได้นำมือถือก้มลงไปถ่ายเห็นหลวงพี่กำลังคุกเข่านั่งฉันบวบอยู่”

“บ้องข้าวหลาม น้ำกะทิ”

บ้องคำหลาม เป็นคำข่าวที่ใช้สื่อแทนอวัยวะเพศชาย ขณะที่ น้ำกะทิ สื่อถึงน้ำกาม (น้ำอสุจิ) อันมีลักษณะของเหลวสีขาวข้นที่หลั่งออกโดยผู้ชาย

เหตุการณ์ครั้งนี้มาจากเฟสบุ๊คเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว2” วันที่ 21 ก.พ. 2566 ที่ได้ออกมาโพสต์ภาพและข้อความแฉวงการพระสงฆ์ โดยบอกว่า “กลางวันเชิญชวนญาติโยมนั่งกรรมฐาน กลางคืนชวนนั่งเหลาบ้องข้าวหลามคั้นกะทิ พระสงฆ์รูปหนึ่งที่วัดใน อ.หางดง จ.เชียงใหม่” พร้อมแซวว่า “แหมมมม่ ไม่หลับ ไม่นอน เหลาหรือนั่งสแครชแผ่นกันอยู่คะ”

ทางเพจได้ลงรูปของพระรูปดังกล่าวนั่งสมาธิอยู่หน้าถ้ำ รวมไปถึงภาพนอนบนเตียงในสภาพเปลือยท่อนบน และข้างๆโพสต์ภาพเรือนร่างของบุคคลที่ดูเป็นผู้หญิง พร้อมเซ็นเซอร์ภาพนี้ด้วย

และทางเพจทิ้งท้ายว่า “ซ้อพยายามลงเรื่องที่มีหลักฐานชัดเจนจริงๆ ค่ะ ถ้าไม่มีหลักฐานก็เหมือนดาบสองคม คนจะมองเราไม่ดีได้ ขอบคุณนะคะ มันมีเยอะมากค่ะ พระ-เณรแบบนี้ สงสารพระดีๆ จริงๆ ที่เป็นแกะดำจากคนอาศัยผ้าเหลืองหากิน”