งานเข้า “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง สืบเนื่องจากการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 21 พ.ย.66 ที่ผ่านมา เศรษฐา ได้พูดถึงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือของนายอำเภอและผู้กำกับ
โดย เศรษฐา กล่าวตอนหนึ่งว่า “สำหรับผู้กำกับใหม่ ผมมั่นใจว่ามีทั้งผู้ผิดหวัง และผู้สมหวังอยู่ในห้องนี้ ที่ขอตำแหน่งไป เพราะรู้สึกว่าเยอะเหลือเกิน แต่ก็มีไม่น้อยที่ได้สมหวัง โดยเป็นผู้กำกับใหม่ ซึ่งเราจะต้องพูดคุยเรื่องนี้กันให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และกำจัดปัญหาหนี้นอกระบบออกไป”
ด้าน นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 ธ.ค. กมธ.จะเชิญ นายเศรษฐา ชี้แจงต่อประเด็นดังกล่าว หากเป็นข้อเท็จจริง ต้องชี้ชัดว่า สส.คนไหนที่เกี่ยวข้อง เพราะกรณีนี้จะถือว่า สส.แทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราช ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 185(3) กำหนดเป็นข้อห้ามไว้
ขณะที่ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี กำลังทำผิดรัฐธรรมนูญ ที่มีเจตนารมณ์ป้องกันไม่ให้ สส. ก้าวก่ายแทรงแซงในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ตามมาตรา 185 รัฐธรรมนูญ กรณีนี้นายกรัฐมนตรีเป็นตัวการร่วมในการกระทำความผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายกรัฐมนตรีต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้กระจ่างชัด ซึ่งการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจต้องยอมรับว่ามีปัญหามาโดยตลอด สังคมหวังว่าจะดีขึ้น ทั้งๆที่ เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2566 นายเศรษฐา เคยกล่าวถึงเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายว่า “เป็นเรื่องน่าเศร้า ยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ จะต้องมีความเป็นธรรม เรื่องการซื้อขายตำแหน่งต้องไม่มี”
ส่วน นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อกรณีนี้ว่า เป็นเรื่องที่ผิดทั้งรัฐธรรมนูญ ผิดจริยธรรมนักการเมือง และมีความผิดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ เหตุใดเป็นถึงนายกฯ กลับทำเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ ทั้งๆ ที่เป็นการใช้เส้นสายและผิดกฎหมาย ยังไม่นับว่าตำรวจอีกมากที่ไม่ใช้เส้นสาย จะช้ำใจและเสียใจมากขนาดไหน ครอบครัวของเขาอีกหลายคนที่ได้รับผลกระทบ
“รัฐบาลนี้เริ่มต้นไม่ทันไร ก็ทำให้ระบบเส้นสายเติบโตเสียแล้ว ไม่แปลกที่เราถึงได้เห็นองค์กรตำรวจเป็นแบบนี้ นี่ใช่มั้ยถึงไม่อยากใช้คำว่าปฏิรูป นี่ใช่มั้ยถึงไม่กล้ามาตอบกระทู้ในสภา น่าผิดหวังมาก ผิดหวังแทนตำรวจชั้นผู้น้อยที่ไม่มีเส้นสายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า เรื่องนี้จะต้องตรวจสอบกันอย่างแน่นอน นายกฯ เศรษฐาอย่าได้หนีการตรวจสอบ และเอาความจริงมาพูดว่าตกลงฝากใครไปบ้าง ผู้กำกับคนไหนได้ตั๋ว สร.1 หรือตั๋วนายกฯ หรือตั๋วเพื่อไทย และตนขอเรียกร้องไปยังพี่น้องตำรวจช่วยกันส่งเรื่องนี้มาให้ ยืนยันจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้นิ่งเงียบเด็ดขาด” นายรังสิมันต์ ระบุ