เขาชื่อ “วันชัย สอนศิริ” : โหรดวงผู้ทายทัก (ษา) ทางการเมือง

วันชัย สอนศิริ พื้นเพชาวจังหวัดชลบุรี เจ้าของฉายา “ทนายหัวหมอ” ผู้โลดแล่นในหน้าสื่อมาอย่างยาวนาน การเดินทางของดวงดาวในชีวิตเขาราวกับกำหนดให้ต้องเลือกและต้องเป็น แม้จะร้ายในเบื้องต้นแต่ปลายทางของทนายผู้นี้กลับดี และมีนัยยะทุกย่างก้าวทางการเมืองในเวลานี้

เท้าความในอดีต “วันชัย” เป็นเด็กบ้านนอกธรรมดาๆ คนหนึ่ง  ที่ไม่ได้พบกับความสนุกสนานเหมือนเด็กทั่วๆไป ไม่ได้มีโอกาสเที่ยวแตร่ ดูหนังเล่นละคร เพราะต้องช่วยพ่อแม่ทำงานหากินเป็นหลัก การเลี้ยงควาย ต้อนเป็ดถือเป็นเรื่องธรรมดาของเด็กชายคนนี้ที่ต้องทำเป็นประจำ แต่เขาก็ไม่ปิดกั้นโอกาสในชีวิตเพราะความยากจน แต่เลือกที่จะบวชเรียน เป็นสามเณร เพื่อเป็นเส้นทางหาดาวประจำตัวให้กับตัวเอง

แต่เส้นทางของคนเรามักมีอุปสรรคเสมอ เมื่อแม่ของสามเณรวันชัยถูกโจรฆ่าด้วยเหตุการชิงสร้อยคอทองคำและโดนบีบคอจนเสียชีวิต ขณะที่พ่อก็ถูกคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลจากการเป็นหนี้เพื่อเอาใช้ในการหากิน สิ่งเหล่านี้คือความขื่นขมราวกับพระราหูทับลัคนา แต่ใครจะรู้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นแรงสู้ให้เขาต้องเรียนนิติศาสตร์ เป็นหมอความ เพื่อจะสู้กับความอยุติธรรมในชีวิต

เรื่องราวยังขีดให้เขาต้องไปต่อ เมื่อ หลวงอา ฝากสามเณรวันชัย ที่ขณะนั้นพกนักธรรมตรี มาจากจังหวัดชลบุรี ไปศึกษาต่อที่วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพมหานคร กระนั้นการเข้ามายังเมืองหลวงของเขามิได้โดดเดี่ยว เพราะมีเด็กชายธงชัย เอี่ยมสะอาด ญาติของวันชัยติดสอยห้อยตามกันมาด้วย โดยเริ่มต้นเป็นเด็กวัดไตรมิตรฯ ก่อนอายุ 15 ปี พระวิสุทธาธิบดีจะขอให้เรียนหนังสือร่วมกับสามเณรที่วัด และอีก 3 ปีต่อมาเขาตัดสินใจบวชเป็นสามเณร

รูปสามเณร วันชัย สอนศิริ และ สามเณร ธงชัย เอี่ยมสอาด ประมาณพ.ศ. 2511 ถ่ายที่หน้า อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ภาพโดย เพจเฟสบุ๊ก วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร Wat Traimit-Golden Buddha

เส้นทางของ “วันชัย” และ “ธงชัย” ดวงดาวต่างกำหนดให้ต้องพานพบและเดินทางคนละเส้น เมื่อสามเณรวันชัย ได้ศึกษาต่อระดับนักธรรมโท และเปรียญธรรม 4 ประโยค จนได้เป็น มหาวันชัย ก่อนจะเข้าสอบเทียบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือ “มศ.5” เพื่อเปิดทางในระบบการศึกษาปกติและตัดสินใจลาสิกขาตอนอายุ 18 ปี  แล้วเข้าศึกษาต่อที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ตามความตั้งใจเดิมโดยมีเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรฯ เป็นผู้ส่งเสียค่าเล่าเรียน พูดได้ว่า เขาคือศิษย์ก้นกุฎิ ของที่แห่งนี้ ก็ว่าได้

ขณะที่เด็กชายธงชัย เอี่ยมสะอาด ไม่ได้เลือกเส้นทางเดียวกับวันชัยแต่เลือกที่จะไปต่อในการรับใช้พระพุทธศาสนา โดยอุปสมบทเป็นภิกษุเมื่อวันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2517 โดยมีพระวิสุทธาธิบดี (ไสว ฐิตวีโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสุวรรณธีราจารย์เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสุนทรคุณธาดาเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า ธมฺมธโช และต่อมากลายเป็น เจ้าคุณธงชัย ธมฺมธโช แห่งวัดไตรมิตรฯ และรู้จักกันดีในนามประธานมูลนิธิร่มฉัตร และสถาบันขงจื่อเค่อถัง ที่ให้การสนับสนุนทุนการศึกษาอย่างรางวัลเพชรยอดมงกุฎ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ และปรากฏอีกครั้งในนาม “เจ้าคุณเลสเตอร์” ก่อนที่ปี 2562 จะได้มีการโปรดเกล้าให้เป็น สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง

ตัดมาที่ชีวิตของ “วันชัย” ตัวละครหลักในบทความนี้ เมื่อเขาเรียนจบก็ได้เข้าสู่อาชีพทนายความอยู่ที่สภาทนายความ เรียกได้ว่า ทำอาชีพนักกฎหมายอย่างเต็มตัว มีบ้างบางครั้งที่เข้าไปเป็นสมาชิกสภาเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร อยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะไปทำรายการทอล์คโชว์ด้านกฎหมาย ให้ความช่วยเหลือประชาชน ซึ่งคุ้นหน้าคุ้นเสียงในสถานีโทรทัศน์ “ไอทีวี” และสุดท้ายก้าวเป็นเลขาธิการสภาทนายความ 4 สมัย

และชีวิตของเขาเหมือนต้องมนตราอีกครั้ง หลังมูลนิธิร่มฉัตร ในนามของภาคเอกชน เสนอเขาเข้าสู่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาแบบสรรหาในปี 2554 และยาวต่อเนื่องมาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) สมาชิกสภาขับเคลือนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ก่อนจะได้รับการสรรหาเข้าขึ้นสู่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อีกครั้งในปี 2562 หนึ่งในส.ว. 250 คน ผู้วางกลยุทธ์ให้ ส.ว. เลือกนายกรัฐมนตรีได้

จะอย่างไรก็ตามนาทีนี้ ชื่อของวันชัย จากอาจารย์ พิธีกร ทนายความ ไม่ใช่บทบาทที่สังคมให้ความสนใจ แต่กำลังพุ่งเป้าไปที่การเป็นนักการเมืองผู้มีความสามารถต่อชะตาตัวเองทางการเมืองและเส้นทางในการผันตัวมาเป็นโหรดวงผู้ทายทัก(ษา) ทางการเมืองในเวลานี้

เรื่องการเป็นโหรการเมือง ใช่ว่าจะเกิดมานานนัก แต่เจ้าตัวยืนยันว่ามีพื้นฐานเรื่องโหราพยากรณ์อยู่พอตัว โดยได้ร่ำเรียนวิชาคำนวณดวงดาวศึกษาพยากรณ์ มาตั้งแต่ช่วงบวชเรียน สมัยอายุ 11-12 ปีมีภูมิความรู้เรื่องการพยากรณ์อยู่พอตัว แต่ “ไม่เคยบอกให้ใครรู้”

การเริ่มต้นทำนายมาจากการวิเคราะห์เหตุการณ์บ้านเมือง และการอ่านเกมทางการเมืองที่เกิดขึ้นอย่างร้อนแรงในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก่อนที่การทำนายทายทักลองวิชาครั้งแรกของเขาจะเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2558

โดยพยากรณ์ดวงชะตา ทำนายอนาคต รัฐบาลเรือแป๊ะ อยู่ในช่วงพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ดาวมฤตยูกำลังออกฤทธิ์ จับยามสามตา แล้วฟันธงให้จับตาดูให้ดี จะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในรัฐบาล ช่วงหลังวันที่ 12 ก.ค.นี้ หลังจากนั้นเองก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีแต่เพียงการโหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ และพารัฐบาลให้อยู่ต่อ

และก่อนจะได้รับเลือกเป็นวุฒิสมาชิกให้ไปต่อในปี 2562 วันชัยเปิดอกเปิดใจในวันที่ 18 ธ.ค. 2561 ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งซึ่งทั้งหมดสวมใส่เสื้อสีเหลืองว่า “ผมเป็นคนเขียนในรัฐธรรมนูญ ปกติ สว. ไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่ ไม่มีสิทธิไปโหวตใครเป็นนายกรัฐมนตรี ผมเป็นคนเขียนในรัฐธรรมนูญ เสนอในสมัยที่ผมยังเป็น สปท. ให้ สว. 250 คนนี้ มีสิทธิร่วมในการโหวตคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี พวกเราจำคำถามพ่วงได้หรือไม่ ที่โหวตทั่วประเทศได้ 15ล้านเสียง ว่าเห็นด้วยว่าให้ ส.ว. ที่ คสช. ตั้งมา มีสิทธิโหวตนายกรัฐมนตรี  

ผมเป็นเด็กวัด (ไตรมิตรฯ) ซึ่งเป็นคนเริ่มต้นคำถามพ่วงและมีคนโหวตเห็นด้วย 15 ล้านเสียง ปรบมือหน่อยครับ

ต่อเนื่องมาในทางการเมืองตลอด 4 ปีของรัฐบาลประบุทธ์ วันชัยก็ยังใช้ชีวิตโหรการเมือง หมวกนี้ผ่านการโพสต์ข้อความลงเพจเฟสบุ๊กและทุกครั้งที่โพสต์ก็มักได้รับความสนใจ และหยิบมาเป็นพาดหัวข่าวอยู่ตลอดว่า เป็นต้นว่า มาจาก “โหรวันชัย”

การทำนายมีบ้างบางครั้งที่ตรงและเกือบทุกครั้งที่มักพบเจอความผิดพลาด ทำให้หลายฝ่ายต้องออกมาโต้กลับเขา พร้อมแนะว่า ควรเผาตำราทิ้งเสีย และให้หยุดบทบาทนี้

ยกตัวอย่างกรณีวันที่ 2 ก.ค. เพจเฟสบุ๊กหัวข้อ “6 เดือนของรัฐบาลกับดาวมฤตยู” ว่า “นับแต่นี้ไปถึงสิ้นปี แค่ 6 เดือนเท่านั้นเร็วมาก และดูจากสถานการณ์ทางการเมือง ทั้งข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายเลือกตั้ง ทั้งมฤตยูย้ายวันที่ 7 ก.ค.นี้ ยังไงๆ รัฐบาลนี้ก็อยู่ไม่ครบวาระแน่นอน หรือ กรณี “ผู้มีอำนาจจะสิ้นยศ” ข้อเขียนทำนายดวงดาวของนายกฯ ที่อาจจะไม่รอดคำวินิจฉัยปมปัญหา 8 ปี แต่จนแล้วจนเล่าก็รอด

และล่าสุด การทำนายของทายทักดวงของ อุ๊งอิ๊ง “แพทองธาร ชินวัตร” ว่า 1 มี.ค. 66 ดาวเสาร์ย้าย อุ๊งอิ๊งดวงจะดีกลางปี 67 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ ส.ว.ชุดแรกที่สามารถเลือกนายกฯได้หมดวาระ ทำให้อุ๊งอิ๊งตอบคำถามสื่อต่อการทำนายดังกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ ไม่รู้จะตอบอะไรเลย ข้ามไปๆ อันนั้นเหมือนไม่ใช่ดวง เหมือนเป็นข้อเท็จจริง”

ลองมองลึก ๆ บางครั้งโหรวันชัย อาจจะไม่ใช่โหรคิดเลขพยากรณ์ตามดวงดาวก็เป็นได้ แต่เขาคือโหรการเมืองผู้ส่งสัญญาณทายทัก นัยยะบางอย่างล่วงหน้าเพื่อเตือนให้กลุ่มการเมืองเดินทางให้ถูกร่องถูกรอยตามเส้นประชาธิปไตยที่ควรจะเป็นในสังคมไทย ฉะนั้นโหรผู้นี้จึงมิใช่โหรทักษา แต่เป็นโหรทักทายทางการเมือง ที่ภายใต้การทำนายทักทายนั้นเป็นสัญญาณจากตัวเองที่คิดเอง หรือใครมิอาจทราบได้ แต่ทุกครั้งที่เขาทายทักมักเป็นประเด็น และมีเค้าลางปรากฏทิ้งรอยให้เห็นอยู่เสมอ

ส่วนถ้าจะคาดหวังเอาโหราจารย์ให้แม่นจริงๆ คงไม่ใช่โหรวันชัย แต่คือโหราจารย์อย่างท่านเจ้าคุณธงชัย ญาติผู้ติดตามสามเณรธงชัยตั้งแต่เด็กต่างหาก ที่ทำนายทายทักได้แม่นยำ ดูฤกษ์ยามงามดี มีผ้ายันต์ส่งเลสเตอร์ขึ้นหิ้งแชมป์พรีเมียร์ลีกจนโด่งดังเป็นที่เคารพนับถือของคนทุกวงการ ทั้งการเมือง ธุรกิจ สังคม รวมถึงวันชัย สอนศิริที่เข้านอกออกในอยู่เป็นประจำ

จนอาจกล่าวได้ว่า ทักษานั้นต้องยกให้เป็นเรื่องของ เจ้าคุณ “ธงชัย” ส่วนทักทายนั้นต้องยกให้ “วันชัย” เด็กสองคนจากชลบุรีผู้มีเส้นทางดาวต่างกันแต่ความผูกพันนั้นเหมือนเดิมจวบจนปัจจุบัน