เกมลี้ลับ “สว. บ้านป่า”ล้ม “เศรษฐา”-เชิด”ลุงป้อม“

“การเมืองมีความลี้ลับ” สัญญาณจาก “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ มองการเมืองไทยหลัง “อนุรักษ์นิยม” จับ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ ขึงพืดเอาไว้ เพื่อเปิดโต๊ะเจรจารอบใหม่

ปฏิบัติการของ “กลุ่ม 40 สว.” รวดเร็วทันใจ “ใครบางคน” ก่อนส่งให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” พิจารณารับคำร้องปมคุณสมบัติรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

แม้ “นายใหญ่-นายหญิง” จะอ่านเกมเอาไว้ว่า หาก “พิชิต” ยอมถอย ลาออกจากตำแหน่ง “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะไม่รับพิจารณาคำร้อง “พิชิต” พ่วงคำร้อง “เศรษฐา” ด้วย เพราะเคยมีกรณีลาออกก่อนการพิจารณารับคำร้อง ทำให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” จำหน่ายคำร้อง

แม้จะมี “ทีมเชียร์พิชิต” จะคัดค้านไม่ให้ลาออก เพราะถึงเวลาจะต้องสู้กับ “อนุรักษ์นิยม” เนื่องจากมองว่าหากลาออกจะได้รุกต่อ เพราะเป้าอยู่ที่ “เศรษฐา” ไม่ใช่ “พิชิต” หากทำใจแข็งไม่กลัวสัญญาณเกมเร่ง อาจจะทำให้ “อนุรักษ์นิยม” ยอมถอยไปเอง

เนื่องจากอ่านว่า “อนุรักษ์นิยม” ไม่มีหน้าไพ่ให้เล่นมากนัก อย่างไรก็ต้องพึ่งบริการของ “เพื่อไทย-ชินวัตร” ที่มี สส. 141 เสียง

สถานะของพรรคเพื่อไทย จึงมากพอที่จะต่อรองทางการเมือง ไม่ใช่ปล่อยให้ “อนุรักษ์นิยม” ขย่มจนไร้แต้มต่อ

ทว่า “นายใหญ่-นายหญิง” กลับเดินเกมเพลย์เซฟ ปฏิบัติการขอร้องแกมบังคับให้ “พิชิต” ลาออกจนสำเร็จ แต่ท้ายที่สุด “เศรษฐา” ยังไม่พ้นบ่วงกรรม “ศาลรัฐธรรมนูญ” รับคำร้อง ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 1 ส่วนคำร้อง “พิชิต” ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 2 ตีตกไป เพราะพ้นความเป็นรัฐมนตรีไปแล้ว

เรื่องในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่าจะใช้เวลากว่า 1 เดือน จะชัดเจนว่า “นายกฯ นิด” จะได้ไปต่อหรือพอแค่นี้ เพราะการเปิด “บิ๊กดีล” รอบใหม่ระหว่าง “ชินวัตร-อนุรักษ์นิยม” เงื่อนไขในดีลอาจจะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

“ขุนพลเพื่อไทย” ยังมั่นใจว่าดีลรอบใหม่ อาจจะไม่ถึงขั้นเปลี่ยนตัว “นายกฯ” จาก “เศรษฐา” ให้เป็น “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่มีสถานะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ด้วย แต่ดีลจะพุ่งตรงไปที่ตัวของ “ทักษิณ” อาจจะมีการตีกรอบเรื่องการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะในประเด็นการเมือง

อย่างไรก็ตามอีกทางหนึ่งแผนลับของ กลุ่ม 40 สว. ถูกมองว่ามีการกดปุ่มจาก “บ้านป่ารอยต่อ” หวังเขี่ย “เศรษฐา” ให้พ้นเก้าอี้นายกฯ เพื่อเปิดทางให้ “ลุงบ้านป่าฯ” มีลุ้นนั่งเก้าอี้ในฝัน

มีการไล่สแกนร่องรอยรายชื่อ กลุ่ม 40 สว. ที่ร่วมลงชื่อยื่น “ศาลรัฐธรรมนูญ” ให้สอย “เศรษฐา” ร่วงจากเก้าอี้นายกฯ ชื่อที่ถูกจับจ้องที่สุดชื่อหนึ่งเป็น “มหรรนพ เดชวิทักษ์” สว. ที่ถูกมองว่าเป็น “สายป่ารอยต่อ”

เพราะในแวดวงการเมืองรู้กันดีว่า “ชาญกฤช เดชวิทักษ์” ลูกชายของ “มหรรณพ” ทำงานอยู่กับ “ลุงป้อม” ในตำแหน่งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ

ขณะเดียวกันตัวของ “มหรรณพ” เป็นประธาน กมธ.การศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งมี กมธ. ดังกล่าว 2 คนร่วมลงชื่อด้วย ประกอบด้วย “ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร” และ “พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร”

นอกจากนี้ยังมีความผิดปกติ หลังพบ 6 สว. ที่ร่วมลงชื่อมาจาก กมธ.ตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ซึ่งมี “พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ” น้องชาย “ลุงป้อม” นั่งเป็นประธาน

ประกอบด้วย “มล.สกุล มาลากุล” – “ธานี อ่อนละเอียด” – “วิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร” – “พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์” – “วรารัตน์ อติแพทย์” และ “พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย”

ส่วน “อดีตบิ๊กทหาร” มีชื่อ “พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์” อดีต ผบ.สส. (ตท.6) “พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์” อดีตปลัดกลาโหม น้องรัก “ลุงป้อม” ทั้งคู่

อย่างไรก็ตาม กลุ่ม 40 สว. มีชื่อ “พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร” และ “พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์” เพื่อนร่วมรุ่น “บิ๊กตู่” แต่ทั้งคู่มีจุดยืนทางการเมืองของตัวเอง ที่สำคัญไม่ใช่คีย์แมนหลักในการขับเคลื่อนเกมของ “ทีมบิ๊กตู่”

ว่ากันว่า “ทีมบิ๊กตู่” ที่คอยชู๊ตประเด็นสำคัญจะมีสองคีย์แมนหลัก ประกอบด้วย “พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ” น้องเลิฟตัวจริง เคยนั่งเก้าอี้ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในยุครัฐบาล คสช. และ “พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร” รองประธานวุฒิสภา

ที่สำคัญในช่วงเคลื่อนเกมของ “กลุ่ม 40 สว.” มีการปล่อยชื่อ “พล.อ.บุญธรรม โอริส” นายทหารปืนใหญ่จากกองทัพภาคที่ 2 นครราชสีมา ซึ่ง “บิ๊กตู่” หัวหน้า คสช.ในเวลานั้น เรียกตัวมาทำงานในตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) เป็นตัวตั้งตัวตีรวบรวมรายชื่อ แต่เมื่อเปิดชื่อกลับไม่มีชื่อ “พล.อ.บุญธรรม”

“ชินวัตร-เพื่อไทย” จึงถึงบางอ้อว่าชื่อ “พล.อ.บุญธรรม” ถูกปล่อยให้เชื่อมถึง “บิ๊กตู่” เพื่อทำให้สับสน

เมื่อจำแนก สว. สาย 2 ลุง กลับพบความเชื่อมโยงกับ “ลุงป้อม” มากกว่า “ลุงตู่” แถมมือปฏิบัติการอักษรย่อ “พ.” อดีต สว. และอดีต สส. พรรค 1 เสียง เป็นคนเคลื่อนเกมวางคนทั้งหมด

ความลี้ลับจึงเกิดใน “บ้านป่ารอยต่อ” ตัวละครระดับคีย์แมนเริ่มเปิดเผยตัว จึงไม่แปลกที่ “ทักษิณ” ออกมาส่งสัญญาณในการลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา โดยระบุว่า “การเมืองก็ยังเป็นการเมือง มีความลี้ลับอยู่พอสมควร ส่วนใหญ่เราจะดูความเคลื่อนไหว เพราะประเทศไทยใครเคลื่อนไหวอะไร ก็จะรู้ว่าคนนี้เป็นคนของใคร”

แถม “ทักษิณ” ยังบลั๊ฟกลับว่ารู้หมดแล้วว่า “กลุ่ม 40 สว.” มาจากสายไหน คนของใคร ต้องจับตา “ทักษิณ” จะเดินเกมอย่างไร เพราะ “บิ๊กดีลเก่า-ดีลลังกาวี” ไม่ได้ขยับล้ม “เศรษฐา” กลับเป็น “ทีมบ้านป่าฯ” ที่ต้องการเอาใจ “นายป้อม”

หากเที่ยวนี้ “ลุงป้อม” ยังไม่สมหวัง สถานะพรรคร่วมรัฐบาลของ “พลังประชารัฐ” อาจอยู่ในภาวะเสี่ยงเช่นกัน