ไทยสร้างไทย : ตำแหน่งทางการเมืองที่(เกิน)พอดี

หากจะกล่าวว่าการเดินทางของพรรคไทยสร้างไทย เริ่มต้นคู่ขนานไปกับการเดินบนหมากกระดานทางการเมืองของคุณหญิงหน่อยก็คงไม่ผิด เพราะหลังจากที่คุณหญิงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ตัดสินใจลาออกจากพรรคเพื่อไทย พร้อมอดีตแกนนำพรรคอีก 3 คน คือ วัฒนา เมืองสุข, พงศกร อรรณนพพร และโภคิน พลกุล ออกมาตั้งพรรคพร้อมเคลื่อนไหวในระยะแรกด้วยกลุ่มสร้างไทย ทางโซเชียลมีเดีย

ไทยสร้างไทยก่อตั้งเมื่อ 23 มีนาคม พ.ศ. 2564 กว่า 2 ปีที่พรรคเดินทางมา และกว่าจะมีวันนี้ได้ก็คงได้มาจากความเจนจัด ปรับตัว ทางการเมืองที่ว่องไวของหญิงสาวผู้นี้ ผู้ที่เคยเป็นทั้งเจ๊ ผู้ที่เคยเป็นทั้งคุณหญิง และล่าสุดผู้เป็นคุณแม่ทางการเมืองไทย

ไทยสร้างไทยเริ่มต้นชิมลางทางการเมืองครั้งแรกด้วยการประกาศนโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาททั่วประเทศ สร้างกระแสฮือฮาให้กับสังคมและรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของพรรคเสมอมา

ประกอบกับในสนามเลือกตั้งผู้ว่ากทม. พรรคได้คว้าเก้าอี้ ส.ก. มา แม้จะเพียงแค่ 2 เขต แต่ก็ได้แจ้งเกิด “ผู้พันปุ่น” ศิธา ทิวารี ที่ตอนนี้เปลี่ยนสถานะกลายมาเป็นแด๊ดดี้หลังจากการออกดีเบต ภาพและเสียงโดนใจผู้ชม จนกลายเป็น #แด๊ดดี้ขยี้เผด็จการ และ #แด๊ดดี้ศิธา เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั้งบนโลกออนไลน์และออฟไลน์ ตลอดจนถึงการจัดกิจกรรมปิดโรงดูหนัง(ท็อป)กันกับผู้พันปุ่น พูดคุยกับบรรดาแฟนคลับ

ขณะที่ในภาคการเมือง ก็ปรากฏภาพคุณแม่หน่อยและแกนนำ ออกมาชิงหน้าสื่อวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลไม่เว้นแต่ละวัน ก่อนจะตกเป็นข่าวในปลายปี 2565 ถึงการร่วมมือกับพรรคของสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แต่สุดท้ายดีลล่มกลางคัน ทำให้ไทยสร้างไทยต้องเดินหมากต่อด้วยแรงฮึดที่มี

ตำแหน่งของพรรค ณ เวลานั้น คือ การไม่ซ้ายไม่ขวา เสนอทางเลือกเป็นพรรคสายกลาง พร้อมระบุไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร แต่ดูเหมือนกระแสยังไม่ตอบรับเท่าที่ควร ภาพของการแบ่งบทออกมาเล่นจึงเกิดขึ้น คุณหญิงหน่อยและศิธา ได้รับการเสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคหมายมั่นกระชากคะแนนทั้งต่างจังหวัดและคนเจนใหม่

โดยคุณหญิงออกภาพในเวทีดีเบตสำคัญระดับผู้นำพรรค และนำปราศรัยในพื้นที่ พร้อมปรับลุคใหม่แสดงถึงการเข้าถึงกลุ่มนิวโหวตเตอร์ การชูความเป็นผู้หญิง

ขณะที่ศิธา ขยี้ในเวทีดีเบตย่อยแทบจะทั้งหมด ในเวทีการเมือง ยิ่งช่วงการเมืองโค้งสุดท้ายเราจะได้เห็นภาพแด๊ดดี๊ศิธา ขยี้พรรคฝั่งอำนาจเก่าพร้อมการเป็นมหามิตรผ่านรูป วิดีโอ ในสื่อ อย่าง Tiktok การโอบกอดกับพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมระบุ ศิธาเป็นครูการเมืองของเขา รวมไปถึงภาพความน่ารักบนเวทีดีเบตระหว่างทั้งสอง ให้เห็นในช่วงโค้งสุดท้าย ซึ่งนี้ไม่ใช่ความบังเอิญแต่เป็นความตั้งใจเชิงยุทธศาสตร์ ที่สร้างตำแหน่งแห่งที่ให้กับพรรคไทยสร้างไทย

ขณะเดียวกันท่ามกลางความไม่ชัดเจนของเพื่อไทย ศิธาเองก็เป็นฝ่ายขยี้ให้ตอบคำถาม พร้อมหมายมั่นผูกข้อมือ ให้ยืนยันว่ามีลุงไม่มีเราแน่ๆ อยู่เสมอ สอดรับกับแคมเปญโค้งสุดท้ายของพรรคที่ระบุ “ไม่เอาลุง ไม่เอาความขัดแย้ง” ป้ายพื้นหลังดำอักษรแดง สลับเลขพรรคสีเขียวปรากฏพรึ่บทั่วกทม.

หลังจบการเลือกตั้งแด๊ดดี้ศิธา ยังขยี้ต่อหลังเลือกตั้งเป็นนักข่าวการเมืองจำเป็น ในช่วงระหว่างงานแถลง MOU ถามคำถามต่อเนื่องถึงขั้นเป็น Advance MOU ทำหน้าที่เป็นประธานผูกข้อไม้ข้อมือระหว่างบ่าวสาวก้าวไกล เพื่อไทย โดยที่ไม่มีใครร้องขอ จน ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยออกมาแสดงความไม่พอใจ ระบุถึงการเสียมารยาท

เหตุการณ์ครั้งนี้คงไม่จบง่ายๆ ที่การประกาศท้าชกของคุณหมอชลน่าน แต่กำลังเป็นเหตุการณ์การเดินทางทางการเมืองที่ตะล่อมจนจนมุมของพรรคที่ดูเหมือนจะไม่คิด หรือคิดไว้แล้ว ก็มิทราบได้ เพราะศิธา ยังขยี้ไม่เลิกในประเด็นดังกล่าว มีข่าวไม่เว้นแต่ละวัน

การเดินทางของไทยสร้างไทยเวลานี้จึงเกินพอดีสำหรับใครบางคน และอาจจะพอดี ทำดีแล้วสำหรับคนบางคนเช่นเดียวกัน