30 มกราคม 2023 ตามเวลาท้องถิ่น ทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์ว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาเตรียมยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินของโรคระบาดโควิด-19 ภายในวันที่ 11 พฤษภาคม 2023
ทำเนียบขาวระบุว่า มาตรการใด ๆ ที่กำลังใช้อยู่ในภาวะฉุกเฉินนั้นจะถูกต่ออายุไปถึงเพียงแค่ตามวันที่ระบุเท่านั้น และหลังจากนั้นทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีมาตรการควบคุมพิเศษ ไม่มีการตอบสนองต่อการระบาดฉุกเฉินอีกต่อไป และการออกแถลงการณ์ครั้งนี้ เป็นไปตามหลักที่รัฐบาลได้เคยให้คำมั่นไว้ว่า จะแจ้งยกเลิกภาวะฉุกเฉินล่วงหน้า 60วัน เพื่อให้เวลาหน่วยงานและผู้คนได้เตรียมตัว
ตามแถลงการณ์ยังระบุอีกด้วยว่า แม้จะประกาศภาวะฉุกเฉินไปถึง 11 พฤษภาคม แต่ก็ไม่ได้มีการกำหนดให้มีการบังคับใช้มาตรการใดเพิ่มเติมแต่อย่างใด ไม่มีการบังคับให้ใส่หน้ากาก รับวัคซีน ไม่มีการกำหนดข้อห้ามในสถานศึกษาหรือธุรกิจใด ๆ และไม่ได้มีการกำหนดให้ต้องบังคับใช้ยาหรือการทดสอบใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ฉบับนี้ถูกมองว่าเป็นการกระทำซึ่งหวังผลทางการเมือง เพราะว่าในสภา พรรครีพับลิกันเตรียมที่จะยื่นให้มีการยกเลิกภาวะฉุกเฉิน และถ้าการลงคะแนนในสภาผ่าน จะเท่ากับว่าเป็นการ “เสียหน้า” ของฝั่งรัฐบาลอย่างพรรคเดโมแครตที่อยู่ในสภา เพราะวิปฝั่งเดโมแครตเตรียมที่จะ “โหวตสวน” ดังนั้นทำเนียบขาวจึงตัดสินใจชิงลงมือประกาศกำหนดวันยกเลิกภาวะฉุกเฉินล่วงหน้า
แม้จะมีการคาดคะเนว่าเป็นเรื่องการเมือง แต่ทางฝั่งทำเนียบขาวก็ระบุว่า ในเมื่อจะมีการยกเลิกภาวะฉุกเฉินของโควิด-19อยู่แล้ว ทำเนียบขาวจึงทำการประกาศเอง และยังกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนเอาไว้ เพื่อให้ช่วงเวลาจนถึงวันยกเลิก หน่วยงานต่าง ๆ และผู้คนทั่วไปจะได้เตรียมการสำหรับการเปลี่ยนผ่านทางข้อกำหนดต่าง ๆ ได้สะดวกและสมบูรณ์มากขึ้น
การยกเลิกภาวะฉุกเฉินครั้งนี้ แม้จะเป็นการทำให้สหรัฐอเมริกาเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ก็ยังมีข้อกังวลอยู่หลายประการ เช่น เจน เคตส์ รองประธานอาวุสโสของมูลนิธิครอบครัวไกเซอร์ ได้แสดงถึงความกังวลว่า ต่อไป ภาระการดูแลป้องกันหรือรักษาโควิด-19จะตกอยู่ในมือประชาชนเอง
“ผู้คนจะต้องเริ่มจ่ายเงินเองบ้างแล้ว จากที่พวกเขาไม่เคยต้องจ่ายมาก่อนในช่วงที่การประกาศภาวะฉุกเฉิน และนี่แหละจะเป็นเรื่องแรกที่พวกเขารู้สึกได้หลังกยกเลิกภาวะฉุกเฉิน” เคตส์ ระบุ
ที่มา
CNBC
CNN