สัญญาณประนีประนอม จาก “ปิยบุตร แสงกนกกุล”

ท่ามกลางความขัดแย้งทางความคิด

ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ออกมาสื่อสารไปถึงทุกฝ่ายเพื่อการประนีประนอมและหาทางออกร่วมกัน

1. ถึงฝ่ายที่สนับสนุนให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ผู้ชุมนุม เยาวชนคนหนุ่มสาวในนามคณะราษฎร คิดว่าจำเป็นต้องปรับวิธีการรณรงค์เรียกร้องเสียใหม่ เข้าใจดีว่า ก่อนหน้านี้ข้อเรียกร้องหรือการชุมนุมมีท่าทีอีกแบบหนึ่ง แต่พอโดนอำนาจรัฐกดปราบ สถานการณ์และท่าทีก็เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม ตรงนี้ไม่ใช่การห้าม ไม่ใช่การจำกัดเสรีภาพหรือถอย แต่เป็นเรื่องที่เราจะต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา การชุมนุมที่พุ่งสูงสุดเกิดขึ้นในสถานการณ์แบบหนึ่ง

แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป กลไกรัฐบดขยี้เต็มที่ และข้อเรียกร้องไม่ได้รับการตอบสนอง การเดินแบบเดิมต่อไปไม่ต่างกับการเดินหน้าเข้าหากำแพง เราจำเป็นต้องพิจารณาว่า ทำอย่างไรให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมยอมที่จะฟัง ยอมที่จะถกเถียงด้วยเหตุด้วยผล ซึ่งท่าทีแบบเดิม ไม่มีทางทำให้เกิดขึ้นได้แน่นอน ต้องเปลี่ยนวิธีการนำเสนอ เพื่อทำให้ข้อเรียกร้องได้มีพัฒนาการ มีความคืบหน้า มีผลสำเร็จได้บ้าง หากเดินแบบเดิมคิดว่าไม่มีทางสำเร็จ

2. ถึงสภาผู้แทนราษฎร และพรรคการเมืองต่างๆ ต้องแสดงบทบาทในฐานะผู้นำวาระให้กับสังคม ซึ่งบางช่วงบางตอน ส.ส. พรรคการเมือง อาจเป็นผู้ตาม แต่สถานการณ์แหลมคมแบบนี้ จำเป็นต้องมีผู้แทนที่เป็นผู้นำไปสู่การแก้ไขปัญหา ทำให้วิกฤตความเห็นต่างกันเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์นั้นเบาลงได้ โดยหากนำข้อเสนอเหล่านี้ไปผลักดัน แม้เพียงบางส่วนก็ยังดี นั่นแสดงให้เห็นว่า สถาบันการเมืองในระบบ ได้เปิดพื้นที่เหล่านี้ให้แล้ว

3. ถึงฝ่ายอนุรักษ์นิยม ผมคิดว่าจำเป็นต้องเปิดใจและเปิดพื้นที่ให้กว้างกว่านี้ ซึ่งแน่นอนในทัศนคติความคิดไม่เหมือนเยาวชนหนุ่มสาวปัจจุบัน ตลอดชั่วชีวิตไม่เคยเห็นคนแสดงออกแบบนี้ จึงอาจตกใจ ช็อค กลัว จนนำไปสู่ความเกลียดชัง แต่อยากให้ใช้หลักเมตตาธรรมในฐานะเพื่อนร่วมชาติ ซึ่งนี่แหละคือคำว่าภารดรภาพที่แท้จริง เปิดพื้นที่ให้ เพราะนี่ปรากฏชัดแล้วว่าคนรุ่นหนึ่งมองสถาบันกษัตริย์ไม่เหมือนคนอีกรุ่นหนึ่ง

หลายคนอาจไม่สบายใจ ไม่พอใจต่อท่าทีการแสดงออกของเยาวชนหลายครั้ง แต่อยากให้ทำความเข้าใจกัน มีเมตตาธรรมต่อกัน เพราะหากมุ่งแต่จะใช้กลไกรัฐปราบปราม ย่อมไม่อาจที่จะเปลี่ยนเยาวชนคนหนุ่มสาวได้ ตรงกันข้ามจะยิ่งทำให้ความคิดของพวกเขาไปไกลด้วยซ้ำ และจะทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างรุ่น ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องคนภาคใดปะทะภาคใด ไม่ใช่เรื่องคนเชียร์พรรคใดปะทะพรรคใด แต่บางคนเป็นคนในครอบครัว บางคนเป็นลูกศิษย์ บางคนเป็นผู้ใต้บังคับัญชา เราไล่ใครออกจากประเทศนี้ไม่ได้ อยากให้เห็นแก่บ้านเมือง เปิดพื้นที่และทำความเข้าใจให้มากขึ้น