จับกระแส: บนเส้นทางสายอำนาจ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา”

จับกระแส: บนเส้นทางสายอำนาจ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา”

28 มกราคม 2553 ในสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดง – “พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา” รองผู้บัญชาการทหารบกได้ปฏิเสธถึงการทำรัฐประหาร “พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ระบุ นั่งหัวโต๊ะประชุมร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อวางแผนปฏิวัติที่กองทัพอากาศว่า ไม่มี ตนอยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน ส่วนกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงจะยื่นหนังสือเพื่อต่อต้านการปฏิวัตินั้น สามารถไปยื่นได้ มีคนรับอยู่ ที่เกรงว่าจะมีการปฏิวัติในช่วงที่ พล.อ.อนุพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ไปต่างประเทศนั้น ไม่มีใครปฏิวัติ ขอให้บ้านเมืองเรียบร้อยดีกว่า รับรองว่าไม่มีอะไรทั้งสิ้น”

ต่อมา มติชนสุดสัปดาห์ เลือกขึ้นปกเป็น ภาพพล.อ.ประยุทธ์ พร้อมพาดปก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา รายต่อไป?”

รายงานพิเศษ ในมติชนสุดสัปดาห์ เล่าถึงบริบทในกองทัพเวลานั้น ไว้อย่างน่าสนใจ ในวันนี้ ข่าวลือเรื่องรัฐประหารไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่แปลกก็คือ คนที่ได้รับการกล่าวขวัญว่าจะเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารไม่ใช่ พล.อ.อนุพงษ์ ทั้งที่เขาเป็น ผู้บัญชาการทหารบก แต่กลับเป็น พล.อ.ประยุทธ์ รองผู้บัญชาการทหารบก

ด้านหนึ่ง เป็นเพราะ พล.อ.อนุพงษ์ มีบทเรียนที่เจ็บปวดจากการรัฐประหาร 19 กันยายน เขาเรียนรู้แล้วว่า การยึดอำนาจไม่ใช่หนทางแก้ปัญหาของประเทศชาติ

พล.อ.อนุพงษ์ อยากเกษียณอายุในอีก 8 เดือนข้างหน้าอย่างสงบ ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างจาก พล.อ.อนุพงษ์ เขาเป็นรองผู้บัญชาการทหารบกที่จ่อคิวตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารบก

พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายทหารที่ได้รับความเอ็นดูเป็นพิเศษจาก พล.อ.เปรม ประธานองคมนตรี มีการส่งสัญญาณชัด-ชัด ให้ทุกฝ่ายได้รับรู้ในวันที่ทุกเหล่าทัพตบเท้าอวยพรปีใหม่ พล.อ.เปรม…

พล.อ.เปรม บอกว่า เขารู้จัก พล.อ.ประยุทธ์ มา 20 กว่าปีแล้ว และเข้าใจดีว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทำหน้าที่อะไรมาบ้าง โดยเฉพาะการถวายการรักษาความปลอดภัยต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

‘หากน้องๆ ในกองทัพภาคที่ 1 ทำตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำ จะเป็นประโยชน์ต่อสถาบันที่เรารัก และศรัทธา ด้วยชีวิตของเรา ในกองทัพมีตัวอย่างคือ รอง ผบ.ทบ. ที่แสดงให้เห็นว่า ทหารที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ และปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพลจะต้องทำอะไรที่ดีต่อชาติบ้านเมือง’

กลุ่มคนเสื้อแดงนั้น เชื่อมั่นมากว่า หากมีการรัฐประหารขึ้นมา คนที่จะเป็นหัวหน้าคณะ จะไม่ใช่ พล.อ.อนุพงษ์ แต่เป็น พล.อ.ประยุทธ์

นั่นคือบริบททางการเมืองของต้นปี 2553 กล่าวคือมีการเปิดประเด็นว่า “ประยุทธ์” จะเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติตั้งแต่ปี 2553

ถึงที่สุด การเมืองวิกฤติหนักจน “นายกฯ อภิสิทธิ์” ประกาศยุบสภา พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง เป็นรอยต่อไปสู่ นายกรัฐมนตรีหญิง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ต่อเนื่องด้วยบัตรเชิญทำรัฐประหาร โดย กปปส.

จบที่การทำรัฐประหารของ พล.อ.ประยุทธ์ ในปี 2557 กล่าวคือให้หลังจากการเปิดประเด็นเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ ในอีก 4 ปี ให้หลัง

ชีวิตของ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ผงาดในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2557 จนถึงเวลานี้ ไม่มีทีท่ายุบสภาฯ และไม่มีทีท่าถอยจากการชิงตำแหน่งนายกฯ สมัยที่สาม!!