“อดุลย์”ดักคอ“เพื่อไทย” อย่าเป็น ลิงหิวกล้วย ขอซักฟอกรัฐบาลเต็มร้อย ก่อนประชาชนเสื่อมศรัทธา

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในวันที่ 25 มกราคม 2564 นี้ว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นกลไกในระบบรัฐสภาเพื่อการตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจบริหารของรัฐบาล

ดังนั้นพรรคร่วมฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ต้องใช้กระบวนการนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ระบบการเมือง และประชาชน ไม่ใช่ใช้เป็นเพียงเครื่องต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องถือว่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน เป็นหนึ่งในเงื่อนไขร่วมซ้ำเติมทำลายระบอบประชาธิปไตย ฉากหน้าวิจารณ์โจมตีรัฐบาลเป็นเผด็จการ บริหารประเทศล้มเหลว ทุจริตเพื่อประโยชน์พวกพ้อง แต่ฉากหลังกลับจับมือซูเอี๋ย แบ่งบทกันเล่น หรือโจมตีวิจารณ์ เพื่อหวังตบทรัพย์ผลประโยชน์ เป็นลิงหิวกล้วย เมื่อได้กล้วยแล้วก็เล่นลิเก ทำหน้าที่แบบไม่สมศักดิ์ศรี เป็นมวยล้มต้มคนดู

นายอดุลย์ กล่าวว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลที่มีบาดแผลมากที่สุด ทั้งในแนวราบ ที่ข้าราชการ นักการเมือง ทุจริต คอรัปชั่น เป็นต้นตอที่ปล่อยให้มีบ่อน การลักลอบนำเข้าแรงงานเถื่อนจนประเทศเกิดการระบาดโควิดรอบ 2 แม้กระทั่งงบพัฒนาไฟฟ้าของชาวเขา ของเด็กบนดอยก็ยังตามไปสูบเลือดเนื้อ เบียดบังงบประมาณของคนไทยที่ด้อยโอกาสและยากต่อการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานอยู่แล้ว

ส่วนในแนวลึกก็มีการคอรัปชั่นเชิงนโยบาย ออกนโยบายเอื้อนายทุนพวกพ้อง ทำให้เกิดการผูกขาดทางเศรษฐกิจของบรรดาเจ้าสัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังงาน โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ปัจจัย 4 แม้กระทั่งวัคซีนโควิด-19 สร้างความเหลื่อมล้ำ สร้างความแตกแยก ประชาชน แบ่งเป็นฝักฝ่าย ยิ่งรัฐบาลคุกคามเยาวชนนักเรียนนักศึกษา ยิ่งขยายความขัดแย้งในบ้านเมือง

ผลจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ ดังกล่าว ถึงเวลาแล้วที่พรรคฝ่ายค้านควรจะผนึกกำลังกันหาข้อมูลพยานหลักฐาน มา กระชากหน้ากาก ตีแผ่ให้สังคมและประชาชนได้รับทราบ เพื่อที่จะช่วยกันยับยั้งไม่ให้ประเทศชาติเกิดความเสียหายมากไปกว่านี้

“ผมรู้สึกไม่สบายใจที่มีกระแสข่าวโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่ต่อรองกับผู้มีอำนาจ เพื่อจะอภิปรายหรือไม่อภิปรายรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง เช่น ข่าวการจะไม่อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่สุดของรัฐบาล ผมขอวิงวอนพรรคฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ชาติและที่สำคัญรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา” นายอดุลย์ กล่าว

อย่างไรก็ตามในส่วนขององค์กรภาคประชาชนซึ่งได้ดำเนินการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐไม่ชอบ รวมไปถึงการตรวจสอบการทุจริต ในนามของสภาที่3 ก็จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องการทุจริตให้เข้มข้นมากขึ้นด้วยในปี2564 ซึ่งในเร็วๆนี้จะมีการตีแผ่ความไม่ชอบมาพากลในโครงการขนาดใหญ่ในหลายโครงการ

#NewsXtra#อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล#เพื่อไทย