การเมืองวันนี้รู้ไว้ไม่ตกข่าว ปิดเซฟ “อัศวิน” หลังออกจากผู้ว่าฯ – เศรษฐกิจไทยจ่อถอนตัววิปรบ.

เว็บไซต์ Newsxtra สรุปข่าวการเมืองในรอบวัน ประจำอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2565 ดังนี้

ชวน หลีกภัย ติดโควิด:

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้หลังจากนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เดินทางกลับจากจังหวัดพบอาการ ไข้ หนาวสั่น และเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อเช้านี้ โดยผลการตรวจพบว่า ติดเชื้อโควิด โดยก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน นายชวนก็มีอาการป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เมื่อร่างการพักผ่อนไม่เพียงพอจะเป็นไข้ติดเชื้อในกระแสเลือด โดยล่าสุดแพทย์ให้พักที่โรงพยาบเพื่อติดตามดูอาการอย่างน้อย 3 วันก่อน

อีสานโพล เผยปชช. หนุนหญิงหน่อยเป็นนายกฯ:

ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรืออีสานโพล(E-Saan Poll) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง ดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนอีสาน ไตรมาส 2/2565 และคาดการณ์ไตรมาส 3/2565 รวมถึงประเมินผลงานรัฐบาลด้านเศรษฐกิจและภาพรวม สำรวจวันที่ 2-4 ก.ค.65 จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,109 รายในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัดโดยถามคำถามที่ว่า ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ อยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อมาฟื้นฟูเศรษฐกิจ ผลการสำรวจพบว่า อันดับ1 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ร้อยละ25.8 อันดับสอง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร้อยละ 20.1และอันดับสาม นางสาวแพทองธาร หรืออุ๊งอิ๊ง ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ร้อยละ19.8 ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน มาเป็นอันดับ 4 ร้อยละ 14.4

ศท.ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล:

นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.)กล่าวถึงการยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นวิปรัฐบาลของพรรคศท.ว่า “วิธีการดังกล่าวความความชัดเจนเรื่องสถานะของพรรคว่ากำลังทำอะไร พร้อมชี้ว่าสถานะของพรรคเศรษฐกิจไทยขณะนี้ ถือว่าเป็นการเมืองอิสระในสภาผู้แทนราษฎร โดยเหตุผลการถอนตัวครั้งนี้มีหลายปัจจัยทั้งผลการเลือกตั้งซ่อมที่จ.ลำปาง โดยเฉพาะความไม่ชัดเจนของพรรคทางการเมือง ที่ประชาชนไม่เข้าใจบทบาทจุดยืนของพรรค รวมถึงมีการกลั่นแกล้งในการเลือกตั้ง โดยเปิดความไม่เป็นธรรมบางอย่างของฝ่ายข้าราชการที่มีคำสั่งที่มีความผิดปกติ แต่ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคเสรีรวมไทย” ด้านนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวยืนยันว่า “การลาออกจากวิปรัฐบาลครั้งนี้ หมายถึงการถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล”

เปิดเซฟ “อัศวิน” หลังออกจาก ผู้ว่าฯ กทม.:

สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยรายการบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง กรณีพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อ 25 มี.ค. 65 โดย พล.ต.อ.อัศวิน แจ้งสถานะหย่าตั้งแต่ปี 2554 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 11,518,938 บาท แยกเป็นเงินฝาก 3,867,938 บาท ที่ดิน 6 แปลงใน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรีและ อ.เมือง จ.นครปฐม 5,341,000 บาท ยานพาหนะ 2 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่นระบุเป็นทองรูปพรรณน้ำหนัก 10 บาท มูลค่า 310,000 บาท ไม่มีหนี้สิน นอกจากนี้ แจ้งว่า มีรายได้ต่อปี 2,009,520 บาท เป็นเงินเดือน 864,720 บาท เงินข้าราชการบำนาญ 646,800 บาท เงินเพิ่มข้าราชการการเมือง 498,000 บาท มีรายจ่ายต่อปี 704,000 บาท เป็นค่าประกันชีวิต ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำมัน ค่าโทรศัพท์ ค่าท่องเที่ยวและเงินบริจาค

ปปช. ฟัน “วิฑูรย์” เรียกรับ 30 ล้าน:

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.วันนี้ มีมติการชี้มูลความผิดทางคดีอาญา นายวิฑูรย์ นามบุตร อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กับพวก 5 ราย กรณีถูกกล่าวหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่นและมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด กรณีเรียกรับเงิน 30 ล้านบาท ในการร่วมลงทุนและช่วยเหลือการก่อสร้างโครงการสิ่งสาธารณูปโภคของทางราชการ เมื่อปี 56-57 ซึ่ง ในสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. คดีนี้ มีการระบุว่านายวิฑูรย์ได้รับเงินไปแล้วเกือบ 30 ล้านบาท โดยการจ่ายเป็นเงินสด และการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของบุคคลอื่นด้วย

ศักดิ์สยาม เร่งติดตามงบ 65 คมนาคม:

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมเร่งรัดติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2565 ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมการประชุม โดยการประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมติดตาม การดำเนินงาน การลงนามในสัญญา เพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ปี 2565 ของหน่วยงานในสังกัดให้สามารถเบิกจ่ายเงินได้ตามเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีผลการเบิกจ่าย ดังนี้ กระทรวงคมนาคมได้รับจัดสรรงบประมาณแผ่นดินปี 2565 8 ส่วนราชการ และ 5 รัฐวิสาหกิจ (จาก 12 รัฐวิสาหกิจ ที่มีการใช้งบแผ่นดิน ประกอบด้วย รฟท. รฟม. กทพ. ขสมก. และ สบพ.) ในภาพรวม จำนวน 208,455.23 ล้านบาท แบ่งเป็น รายจ่ายประจำ 26,076.73 ล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 182,378.50 ล้านบาท โดยในส่วนของงบรายจ่ายลงทุน ณ สิ้นเดือน มิถุนายน 2565 มีการเบิกจ่ายเงินแล้ว 112,270.52 ล้านบาท