ยังโต้กันดุเดือด “จิรัฏฐ์-ธนกร” ศึกยก 2 ใครมั่ว? ปม ซื้อ Ipad 130 เครื่องแจกข้าราชการ
จากกรณีนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ในฐานะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ว่า Iphone 12 จ๋อยไปเลย ปีนี้ สลน.ขอจัด Ipad Pro M1 ตัวท้อป 130 เครื่องเสริมงานเขียนสคริปท์นายก กระทั่งนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาโต้กรณีดังกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง
งัดเอกสาร Ipad 130 เครื่อง
ในช่วงค่ำวันที่ 14 ก.ค.65 นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ก้าวไกล เขต 4 จังหวัดฉะเชิงเทรา ชี้แจงเพิ่มเติม โดยยอมรับว่า กล่าวชื่อหน่วยงานผิดและขออภัยในความผิดพลาดแต่ในรายละเอียดถูกต้องทั้งหมดรวมถึงหน่วยงานที่จัดซื้อดังกล่าวก็ความเกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีแน่นอน
“ต้องขออภัย ผมพูดผิดจริงๆ เพราะหน่วยงานจัดซื้อไม่ใช่ สลน.(สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี) แต่เป็น สลค.(สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี) ต่างหากที่ขอซื้อ ส่วนที่บอกว่าสั่งซื้อ Ipad pro ตัวท็อปก็ไม่ผิดแน่ ถูกต้องตามเอกสารทุกอย่าง 130 เครื่อง แถมเมื่อตรวจสอบเพิ่ม เหมือนจะมีมูลว่าจะไม่ใช่ 130 เครื่อง แต่เป็น 210 เครื่อง เพราะว่าเอกสารที่นำมาชี้แจงมี 2 ชุด ชุดหนึ่ง 130 เครื่อง ชุดหนึ่ง 210 เครื่อง”
นายจิรัฏฐ์ กล่าวต่อไปว่า ต้องขอบคุณนายธนากร ที่ออกมาตอบโต้ ตนจึงตรวจสอบไปทั้งสองหน่วยงานเลยจึงทำให้รู้ว่า สลน. เองก็มีการสั่งซื้ออุปกรณ์เช่นนี้เหมือนกันและมีความไม่ชอบมาพากลของโครงการด้วย
“โครงการเหล่านี้มีเจตนาที่จะซื้อ Ipad แน่ แต่เขียนโครงการว่า โครงการจัดหาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแทนระบบเดิม แล้วก็ให้ความจำเป็นว่า เพื่อใช้ดูการประสานงานอาจมีต่างประเทศบ้างรวมถึงสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แต่ผมก็ไม่ค่อยเห็นว่ามีเครื่องมือดีแล้วพวกท่านจะมาตอบกระทู้ถามของ ส.ส.สักเท่าไหร่ ยิ่งท่านนายกฯไม่เคยมาด้วยตัวเองเลย”
นายจิรัฏฐ์ ให้รายละเอียดเพิ่มว่า โครงการนี้อ้างว่าของเดิมใช้มา 5 ปีแล้ว แต่บรรทัดสุดท้ายของการจัดซื้อเขียนว่า จะใช้ไปอีกไม่น้อยกว่า 3 ปี ใช้งบประมาณทั้งหมดในโครงการราว 38 ล้าน งบขนาดนี้ต้องถามว่าเพื่อใช้งาน 3 ปีเท่านั้นแล้วก็เอาใหม่อีกใช่หรือไม่
.
“ในโครงการเขียนว่า แท็บเล็ตแบบที่ 1 แท็บเล็ตแบบที่ 2 แท็บเล็ตแบบที่ 3 โดยเฉลี่ยคือ 6 หมื่นบาท ซึ่งสเป็คนี้มันก็มียี่ห้อเดียวในโลก ดังนั้นก็ควรเขียนว่า Ipad ไปเลย ทุกคนจะได้รับรู้ตรงกัน และจะได้มีการพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่
.
“แทปเล็ตแบบที่ 1 สเป็คต้องมีการประมวลผล 8 core ความจำ 512 กิกกะไบค์ หน้าจอ 12-13 นิ้ว แบบก็เหลือไม่กี่ยี่ห้อแล้ว ไม่ใช่แค่ wifi นะ ต้อง มีบูลทูธและใส่ซิมได้ด้วย กล้องหน้า 12 ล้าน กล้องหลัง 10 ล้าน มีปากกา มีคีย์บอร์ด มีเคส เขียนมา 10 บรรทัด แบบนี้เขียนไปเลยว่า Ipad Pro จัดเจนกว่าแถมเป็นสเป็คเพื่องานเขียนโปรแกรมหรืองานตัดต่อทักษะสูง งานประสานงานจำเป็นต้องใช้ขนาดนี้เลยหรือ”
.
“รายการสุดท้าย เขียนว่าแท่นแท็บเล็ต ก็คือ magic keyboad แพงมากจนอดตั้งคำถามไม่ได้ว่าเจตนาที่ต้องการแท็บเล็ตคืออะไร เห็นว่าต้องการความสะดวกถือไปไหนมาไหนได้ แล้วจะมาซื้อแท่นมาจอเหมือนคอมพิวเตอร์ทำไม ถ้าอย่างนั้นก็ไปซื้อโน๊ตบุ๊กดีกว่า ราคา 25,000 บาท ก็ได้รุ่นดีๆแล้ว”
นายจิรัฏฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การเขียนงบ แบบคลุมเครืออย่างแท็บเล็ตแบบที่ 1, 2 ,3 ทำให้ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรกันแน่ ไปซื้อของร้านสะดวกซื้อยังมีรายละเอียดมากกว่านี้ ซึ่งมันส่อทุจริตแไม่โปร่งใา ถ้าคุณเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อเงินทุกบาททุกสตางค์ เพราะเป็นภาษีของประชาชน ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ มีประชาชนกี่คนที่ได้เงินเดือนถึง 60,000 บาท แต่ทางรัฐบาลกลับจะซื้อแท็บเล็ตราคา 60,000 ให้ข้าราชการใช้เกินกว่าความจำเป็นในหน้าที่การงาน เรื่องนี้จึงไม่ถูกต้อง
ธนกร จวกพูดข้อมูลแท็บเล็ตผิดแต่ยังไม่สำนึก
วันที่ 15 ก.ค.65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงอีกครั้ง กรณีที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ก้าวไกล เปิดเผยข้อมูลการขอจัดซื้อแท็บเล็ตประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เพื่อใช้ในราชการของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ว่า นายจิรัฏฐ์ฯ โพสต์เฟซบุ๊กด้วยความสะเพร่ามาก เป็นถึงผู้แทนแต่แยกไม่ออกระหว่าง สลค.กับ สลน. ทำให้ข้าราชการ สลน. เสียหาย และยังกล่าวหาว่าพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีส่วนรู้เห็นจัด iPAD ตัวท็อปให้กับข้าราชการ ตนจึงต้องออกมาชี้แจงความจริง สุดท้ายนายจิรัฏฐ์ฯ ได้ออกมาขอโทษว่าพูดชื่อหน่วยงานผิดและเขียนรายละเอียดไม่ชัดเจน ซึ่งเบามากเมื่อเทียบกับความเข้าใจผิดและความเสียหายที่เกิดไปแล้ว แต่กลับยังไม่สำนึกเที่ยวไปออกสื่ออธิบายรายละเอียดสเปกที่ตัวเองมโนขึ้น และดูถูกข้าราชการว่าทำงานแค่ประสานงานไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่มีสเปกดีมากก็ได้ ถือเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจสิ้นดี เป็นความตั้งใจที่จะเอาข้อมูลมาโจมตีข้างนอกหวังผลทางการเมือง เพราะในวันที่ประชุมอนุกรรมาธิการพิจารณางบประมาณนายจิรัฏฐ์ฯ ไม่ได้ทักท้วงอะไร ไม่ถามอะไร ปากบอกเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่ธาตุแท้เป็นแค่นักโฆษณาชวนเชื่อ
“ความจริงผมไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด แต่ข้าราชการที่เขาตั้งใจทำงานต้องมารับเคราะห์และเสียหาย ไม่มีโอกาสพูดออกสื่อแบบนายจิรัฏฐ์ฯ และอยากให้นายจิรัฏฐ์ฯ ตั้งสติ ศึกษาหาความรู้ให้แม่นยำ อย่าหุนหันพลันแล่นโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน ใช้สมองส่วนหน้าคิดอย่าใช้แต่สมองส่วนหลัง โดยการจัดซื้อแท็บเล็ตของ สลค. เป็นการซื้อทดแทนของเดิมที่ใช้งานมานานแล้ว เหมือนกับการที่นายจิรัฏฐ์ฯ เปลี่ยนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คที่เสื่อมสภาพตอนที่ยังเรียนหนังสืออยู่ เพื่อรองรับภารกิจของ ครม.ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ประโยชน์ของแท็บเล็ตช่วยให้สามารถเรียกดูและเก็บเอกสารวาระ ครม. จำนวนมาก ลดปริมาณการใช้กระดาษที่สัปดาห์หนึ่งต้องใช้ถึง 7,650 แผ่น และรักษาความลับทางราชการที่อาจส่งผลเสียต่อประเทศได้ หรือนายจิรัฏฐ์ฯ ต้องการให้ราชการไทยทำงานแบบเก่าและใช้เครื่องมือแบบห่วย ๆ อย่างนั้นหรือ” นายธนกร กล่าว
นายธนกร ยังกล่าวอีกว่า แท็บเล็ตของ สลค. 130 เครื่อง แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 จำนวน 80 เครื่อง ใช้สำหรับ ครม.และผู้ร่วมประชุม มีหน้าจอขนาดใหญ่เพื่ออ่านไฟล์เอกสาร และเรียกดูข้อมูลแผนที่ วีดิทัศน์ มติ ครม.ย้อนหลังได้และรองรับการจัดเก็บข้อมูลไม่น้อยกว่า 4 ปี กลุ่มที่ 2 จำนวน 25 เครื่อง ใช้สำหรับบุคลากร สลค. สามารถเรียกดูระเบียบวาระการประชุม ทำงานได้ทั้งในและนอกสถานที่ และใช้สืบค้น มติ ครม. ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2475 ข้อมูลราชกิจจานุเบกษา และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ซึ่งทั้ง 2 กลุ่ม ใช้ระบบ m-VARA ที่เชื่อมโยงกับระบบ iOS ที่มีความปลอดภัยสูง จึงต้องใช้เป็น iPAD นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบา สะดวกต่อการขนย้ายไปประชุมนอกสถานที่ด้วย ส่วนกลุ่มที่ 3 จำนวน 25 เครื่อง ใช้สำหรับการประชุมภายในและการประชุมอื่นที่ สลค.เป็นฝ่ายเลขานุการ ใช้ได้ทั้ง iOS หรือ Android ลักษณะการใช้งานและสืบค้นใกล้เคียงกับกลุ่มที่ 2 รวมเป็นงบประมาณที่เสนอขอทั้งสิ้น 8,239,000 บาท ไม่ใช่ 10,000,000 บาท ตามที่นายจิรัฏฐ์ฯ กล่าวอ้าง