(18 มี.ค.) ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติวาระ 2 พิจารณาเป็นรายมาตรา
โดยในมาตรา 9 นายชูศักดิ์ ศิรินิล กรรมาธิการเสียงข้างน้อย แปรญัตติเสนอ เพิ่มความในการเสนออกเสียงทำประชามติ 5 ข้อ ประกอบด้วย
1. การออกเสียงประชามติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
2. การออกเสียงกรณีคณะรัฐมนตรีเห็นว่ามีเหตุสมควร
3. การออกเสียงตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องมีการออกเสียง
4. การออกเสียงกรณีที่รัฐสภาได้พิจารณาและมีมติเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีเหตุสมควรที่จะให้มีการออกเสียงและได้แจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการ
5. การออกเสียงกรณีประชาชนเข้าชื่อเสนอคณะรัฐมนตรี ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
ทั้งนี้ ภายหลังลงมติ ส.ว. ประท้วงวุ่น โดย นพ. เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว. บอกว่า สมาชิกหลายคนไม่ได้ยินที่ประธานรัฐสภาการเสนอให้ลงมติ จึงขอนับคะแนนใหม่
แต่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ท้วงว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะเข้าสู่มาตราใหม่แล้ว ทำให้ นพ. เจตน์ ต้องยืนยันอีกครั้งว่า ยังไม่เข้าสู่มาตราใหม่ จึงสามารถนับคะแนนใหม่ได้ ซึ่งระหว่างนั้น มีเสียงโห่ไปทั่วห้องประชุม
อย่างไรก็ตาม ต่อมามีการพักการประชุมประมาณ 45 นาที โดยเมื่อกลับมาประชุมอีกครั้ง นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว. กรรมาธิการเสียงข้างมาก แจ้งว่า เมื่อมีการแก้ไขมาตรา 9 จะกระทบต่อร่างเดิมอย่างน้อย 4 มาตรา คือมาตรา 10 และ 11 ในวิธีการขอทำประชามติแต่ละกรณี รวมถึง มาตรา 14 และ 15 การเปิดแสดงความคิดเห็น
ทั้งนี้ ผู้แทนกฤษฎีกา ขอรับเรื่องไปพิจารณาตามขั้นตอนการพิจารณากฎหมาย จึงเสนอเลื่อนการประชุมออกไปก่อน กระทั่งต่อมามีการปิดการประชุม