เวิลด์แบงด์เตือน เศรษฐกิจโลกถดถอยจากการขึ้นดอกเบี้ยวงกว้างมากสุดในรอบห้าทศวรษ
รายงายจากธนาคารโลก (World Bank) กล่าว ภาวะถดถอยทั่วโลกในปีหน้าจะเริ่มปรากฏเค้าลางขึ้นท่ามกลางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวงกว้างที่สุดในรอบห้าทศวรรษของหลายประเทศทั่วโลก
โดยธนาคารโลกระบุในรายงานฉบับใหม่ว่า เศรษฐกิจโลกอาจเผชิญภาวะถดถอยในปีหน้าซึ่งเกิดจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดและมีทีท่าว่าการบรรเทาเงินเฟ้อยังทำได้ไม่เพียงพอ
ผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกกำลังถอยกลับการสนับสนุนทางการเงินและการคลังในระดับของการซิงโครไนซ์ที่ไม่เคยเห็นในครึ่งศตวรรษตามการศึกษาที่เผยแพร่ในวอชิงตันเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งกำหนดผลกระทบที่ใหญ่กว่าที่คาดการณ์ไว้ในสภาวะทางการเงินที่ซบเซาและทำให้การเติบโตทั่วโลกชะลอตัวลง
นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายการเงินทั่วโลกเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นเป็นเกือบ 4% ในปีหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าขตัวในปี 2021 เพื่อรักษาอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานให้อยู่ในระดับ 5-6% โดยจากรายงานของธนาคารโลกประมาณการว่าการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศทั่วโลกในปี 2566 จะชะลอตัวลงเหลือ 0.5% และหดตัว 0.4% ใน GDP per capita ซึ่งแสดงถึงภาวะสัญญาณของเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลก
นอกจากนี้ รายงานโดยนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก Justin-Damien Guenette, M. Ayhan Kose และ Naotaka Sugawara ระบุถึงหนทางให้ธนาคารกลางพยายามควบคุมเงินเฟ้อต่อไปโดยไม่ทำให้เกิดภาวะถดถอยทั่วโลก และกำหนดแผนปฏิบัติการสำหรับผู้กำหนดนโยบายว่า
ธนาคารกลางต้องสื่อสารการตัดสินใจเชิงนโยบายอย่างชัดเจนเพื่อหยุดคาดการณ์เงินเฟ้อและลดระดับความเข้มงวดที่จำเป็น ตลอดไปถึงหน่วยงานทางการคลังจำเป็นต้องปรับเทียบมาตรการสนับสนุนอย่างรอบคอบ ขณะเดียวกันก็สร้างความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของนโยบายการเงินด้วย
และสำหรับจำนวนประเทศที่กระชับนโยบายการคลังในปีหน้าคาดว่าจะถึงระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 ซึ่งเป็นการขยายผลกระทบของนโยบายการเงินต่อการเติบโต ผู้กำหนดนโยบายต้องจัดทำแผนการเงินระยะกลางที่น่าเชื่อถือและให้การเยียวยาสำหรับภาคครัวเรือนที่อ่อนแอ