อิตาลีก้าวเท้าขวาส่งสัญญาณปฏิกิริยาต่อจีน

อิตาลีก้าวเท้าขวาส่งสัญญาณปฏิกิริยาต่อจีน

ยุโรปก้าวเท้าขวาอีกรอบหลัง จอร์เจีย เมโลนี หัวหน้าพรรคการเมืองขวาจัด Brothers of Italy และพันธมิตรแนวร่วมฝั่งขวาคว้าชัยชนะหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา โดยเธอถือเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอิตาลีและยังเป็นผู้นำฝั่งขวาจัดที่มีคะแนนนิยมพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังอิตาลีเผชิญปัญหาเงินเฟ้อจากทั้งวิกฤตด้านพลังงาน และประเด็นสงครามในยูเครนและมุมมองต่อการแก้ปัญหาของชาติตะวันตกเพื่อต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย

หากเทียบสัดส่วนก่อนหน้าจะพบว่า พรรค Brothers of Italy ซึ่งเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งแรกในปี 2013 ได้รับสัดส่วนร้อยละ 2.0 ในสภาผู้แทนราษฎรเพียงเท่านั้น ขณะที่เลือกตั้งในปี 2018 เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย อยู่ที่ร้อยละ 4.4 คว้าเก้าอี้ในสภาล่างไปเพียง 32 ที่นั่ง กลับกันหลังนายกรัฐมนตรีมารีโอ ดรากี ลาออกจากตำแหน่งการเลือกตั้งก่อนครบวาระ 6 เดือน ในครั้งล่าสุดพรรคฝั่งขวาทั้งหมด คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะ พรรคของเมโลนี ที่สัดส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 ครองเสียงข้างมากทั้ง สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา คว้าเก้าอี้ในสภาไป 119 ที่นั่ง และ 69 ที่นั่งตามลำดับ

อย่างไรก็ตามเมื่อมาส่องดูแนวคิดและท่าทีของเธอแล้วพบว่า เธอมีท่าทีที่แข็งกร้าวและชาตินิยม เห็นได้จากการออกมาวิพากษ์วิจารณ์สหภาพยุโรปอยู่บ่อยครั้ง และมองว่าอิตาลีถูกเหยียบย่ำโดยประเทศอียูที่ใหญ่กว่าและร่ำรวยกว่า ความเคลือบแคลงใจและท่าที่ที่แข็งกร้าวของเธอยังมิมีเพียงแค่นั้น แต่ยังลามไปถึงปฏิสัมพันธ์ต่อจีน

ซึ่งโดยพื้นฐานอิตาลีและจีนถือว่ามีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างแนบแน่นมาโดยเสมอมา แต่ภายหลังการก้าวขึ้นสู่อำนาจของเธอทำให้หลายฝ่ายเกรงว่า ความสัมพันธ์ระหว่างยักษ์ใหญ่อย่างจีนอาจสั่นคลอนเนื่องจากในช่วงต้นปี 2008 เธอแสดงออกด้วยการเรียกร้องให้คว่ำบาตรการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปักกิ่งเนื่องจากนโยบายของจีนในทิเบต และเมื่อไม่นานมานี้ยังแสดงออกว่า จะให้ความสนับสนุนต่อ “หุ้นส่วนทางการค้าเชิงกลยุทธ์” ของไต้หวันและออกมาประณามการซ้อมรบของจีนบริเวณรอบเกาะไต้หวันถึงพฤติกรรมที่เธอใช้คำว่า ยอมรับไม่ได้

นอกจากนี้ยังออกตัววิพากษ์วิจารณ์จีนอยู่บ่อยครั้งต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียงและฮ่องกง และ “จุดยืนที่คลุมเครือ” ของจีนในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน

และจากกรณีการลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกของปักกิ่งเพื่อพัฒนาเส้นทางการค้าทั่วเอเชีย แอฟริกา ยุโรปกลาง และยุโรปตะวันออก เธอกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็น “ความผิดพลาดครั้งใหญ่” และยังบอกเป็นนัยว่า MOU อาจจะไม่มีการต่ออายุในปี 2567

ในตอนหาเสียงการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เธอกล่าวว่า หากได้รับเลือกตั้ง รัฐบาลของเธอจะทำงานเพื่อจำกัดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน และทำให้แน่ใจว่าประเทศที่พัฒนาน้อยกว่ามีทางเลือกอื่นแทน “การรุกล้ำของจีน” ผ่านแผนริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง เธอจะให้ความสำคัญกับการพัฒนา Global Gateway ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มของสหภาพยุโรปที่จะลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกจนถึงปี 2027

ฝั่งตรงข้ามทางการเมืองเองก็วิพากษ์วิจารณ์อยู่บ่อยครั้งว่าพรรคขวาในอิตาลีมีรากฐานมาจากพรรคชาตินิยมฟาสซิสต์นำโดยเบนิโต มุสโสลินี ผู้นำฟาสซิสต์ พรรคขวาในอิตาลีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ล้วนได้รับการสนับสนุนจากผู้นิยมชมชอบมุสโสลินีและพวกชาตินิยมทั้งสิ้น และยังกล่าวไปถึงขนาดว่าเมโลนีเป็นพวกนิยมชมชอบมุสโสลินีในวัยเด็กแม้พักหลังเธอจะรักษาระยะห่างและแสดงออกต่อประเด็นดังกล่าวน้อยลงแต่นั่นมิได้ทำให้แนวคิดของเธอเปลี่ยนไป

ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประเทศจีนอย่าง Enrico Fardella ผู้อำนวยการโครงการ ChinaMed แห่งมหาวิทยาลัยตูริน (University of Turin) มองว่า “หากเธอได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มุมมองเหล่านี้จะจุดประกายนโยบายต่างประเทศของอิตาลีที่มีต่อจีนอย่างแน่นอน”

ความน่ากังวลของการเมืองในอิตาลีหลังจากนี้อาจต้องเผชิญมากขึ้นทั้งนโยบายและทิศทางการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและไม่ง่ายมากนัก เพราะหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลฝ่ายขวาอย่าง มัตเตโอ ซัลวีนี และซิลวีโอ แบร์ลุสโกนี เคยถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกนิยมรัสเซีย และในอนาคตหลายฝ่ายวิเคราะห์จุดยืนของเมโลนีที่มีต่อจีนอาจช่วยประสานและหาจุดบรรจบของแนวร่วมในครั้งนี้ให้ไปในทิศทางที่สมดุลมากยิ่งขึ้น

ท้ายที่สุดการเมืองในยุโรปในขณะนี้อาจพูดว่า ยุโรปก้าวเท้าขวาอีกครั้ง หลังจากที่อังกฤษได้ผู้นำหญิงอย่าง ลิซ ทรัส แห่งพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งมีจุดยืนต่อจีนอย่างแข็งกร้าวเช่นเดียวกันในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมคนใหม่ และนโยบายและทิศทางของยุโรปที่กำหนดโดยอิตาลีต่อจากนี้จะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหนคงต้องรอติดตาม

#NewsXtra #นายกฯหญิง #อิตาลี

.

ที่มา :

– Cyril Ip (2022), “Italy’s prospective PM Meloni poised to shake up ties with China.,https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3193985/italys-prospective-pm-meloni-poised-shake-ties-china?module=lead_hero_story&pgtype=homepage