เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สหรัฐฯ บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรบริษัทจีนแห่งหนึ่ง เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าจัดหาภาพถ่ายดาวเทียมในยูเครนเพื่อช่วยเหลือกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ของรัสเซีย ซึ่งอยู่ภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐฯ ที่เพิ่มมากขึ้น
กระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศประกาศการกระทำที่เป็นการช่วยเหลือกลุ่ม Wagner ซึ่งเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติผ่านมาตรการคว่ำบาตรโดยระบุว่า “จะขัดขวางความสามารถของรัสเซียในการติดอาวุธให้กับเครื่องจักรสงครามของตนที่เข้าร่วมในสงครามรุกรานยูเครน ซึ่งก่อให้เกิดการเสียชีวิตและการทำลายล้างอย่างไร้เหตุผล” แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวในถ้อยแถลง
และบริษัทที่ตกเป็นเป้าหมายในการกระทำตามที่กล่าวอ้างครั้งนี้คือ คือ Changsha Tianyi Space Science and Technology Research Institute Co. หรือ บริษัทสเปซตี้ ของจีนที่ทางการของสหรัฐอเมริกาอ้างว่าได้ส่งภาพถ่ายดาวเทียมเกี่ยวกับพื้นที่ของยูเครนแก่ Wagner Group
โดยแหล่งข่าววงในเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเกิดความวิตกมากขึ้นว่า บริษัทจีนหลายแห่งกำลังช่วยเหลือรัสเซียในการโจมตียูเครน โดยสหรัฐได้กล่าวโทษรัฐบาลจีนเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว
นายเจคอบ สโตกส์ อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบายการต่างประเทศในรัฐบาลสมัยประธานาธิบดีบารัก โอบามากล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐยังคงหยั่งเชิงดูอยู่ว่า จีนจะตอบสนองอย่างไรต่อหลักฐานที่บ่งชี้ว่า บริษัทจีนหลายแห่งกำลังช่วยรัสเซียทำสงคราม
“การที่บริษัทจีนส่อเค้าจะทำอะไรล้ำเส้น ทำให้เกิดคำถามว่าจีนกำลังตั้งใจลองดีกับนโยบายของอเมริกาหรือไม่ หรือจริง ๆ แล้วแค่รัฐบาลจีนไม่มีขีดความสามารถในการกำกับดูแลบริษัทจีนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ” นายสโตกส์กล่าว
อย่างไรก็ดี ไม่มีอะไรบ่งชี้ว่ารัฐบาลจีนรับรู้ถึงบทบาทของบริษัทสเปซตี (หรืออีกชื่อหนึ่งคือ บริษัทสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศฉางชาเทียนอี้) ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยข้อมูลเอกสารทางออนไลน์ของบริษัทระบุว่า สเปซตีเป็น “บริษัทเอกชนแห่งใหม่ด้านอวกาศที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว” ซึ่งผลิต “ดาวเทียมนาโน/ไมโคร/ขนาดเล็กราคาประหยัด” ออกมาเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังกำหนดบทลงโทษต่อบริษัทการบิน Kratol ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งระบุว่าได้จัดหาเครื่องบินให้กับกลุ่ม Wagner เพื่อเคลื่อนย้ายบุคลากรและอุปกรณ์ระหว่างสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ลิเบีย และมาลี
Wagner Group นำโดย Yevgeny Prigozhin นักธุรกิจที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซีย มีความกระตือรือร้นเป็นพิเศษในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ซึ่งกระทรวงการคลังขึ้นบัญชีดำบริษัทที่ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานของรัสเซีย
Wagner Group มีบทบาทที่โดดเด่นมากขึ้นในยูเครน เนื่องจากส่งผู้ต้องขังชาวรัสเซียเข้าสู่สมรภูมิรบซึ่งได้รับการผ่อนผันตามสัญญา
ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์กล่าวว่าวากเนอร์มีนักสู้ประมาณ 50,000 คนในยูเครน โดยร้อยละ 80 มาจากเรือนจำ