ต้อนรับเดือนมกราคม เดือนต้นปี เดือนแห่งความหวัง ที่มีทั้งวันเด็ก วันครู อยู่ภายในเดือนนี้ แต่ดูเหมือนว่ามกราคมปีนี้ ฝันของเด็กๆ ในอาชีพยอดฮิต อย่าทหาร ตำรวจ ครู หรือแม้กระทั่งพระ ที่จะแวะเวียนมาเป็นดรามา ข่าวฉาว เป็นประจำ
เริ่มต้นที่ข่าวพระในเดือนนี้ ในวันที่ 11 ม.ค. อย่างครูบาไก่ เจ้าอาวาสที่วัดป่าปฐมเทวาบูรพาราม ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ถึงพฤติกรรมต่างๆ ที่ไม่เหมาะสมในการถือครองเพศบรรพชิต ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยภาพ เล่นน้ำตก นั่งซ้อนท้ายเจตสกีกับลูกศิษย์ที่ทะเลแห่งหนึ่ง
และล่าสุดกรณีการมอบหลักฐานให้กับตำรวจซึ่งเป็นการกล่าวหา ถึงพฤติกรรมมากมายทั้ง การมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกศิษย์ แมเครูบาจะออกมาปฏิเสธว่า ไม่ใช่ตัวเอง แต่ก็สร้างความขุ่นข้องหมองใจต่อญาติโยมที่เคารพนับถืออยู่เป็นจำนวนมาก
เหตุเกิดต่อมา ตามมาด้วย วงการครูเมื่อกรณีคลิปครูชายรายหนึ่งสอนศิลปะ โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในพื้นที่อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มีเพศสัมพันธ์กับนักเรียนหญิง ชั้น ม.3-6หลุดไปในโลกโซเชียล มีการแชร์คลิปภาพออกไปอย่างกว้างขวางตั้งแต่เมื่อวันที่15มกราคม 2566 โดยในคลิปมีนักเรียนหญิง ตกเป็นเหยื่อนับสิบราย สร้างความเสื่อมเสียให้กับนักเรียนสถานศึกษาและสะเทือนวงการเรือจ้าง
โดยคลิปเผยแพร่ก่อวันครูเพียงแค่ 1 วัน ขณะนี้ตำรวจได้แจ้งข้อหาตำรวจได้เชิญตัวมารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.โนนสูง โดยในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งดำเนินคดี 2 ข้อหาหนัก ประกอบด้วย ข้อหาพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร และข้อหานำเข้าข้อมูลลักษณะลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
นอกจากนี้ยังปรากฏข่าวในวันที่ 19 ม.ค.คลิปวีดีโอที่มีนักเรียนภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ แอบถ่ายเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐานให้กับผู้ปกครองดู โดยผู้ปกครองจึงนำคลิปดังกล่าวส่งมายังสื่อมวลชน พร้อมระบุข้อความว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนระดับชั้นมอปลาย ซึ่งเด็กนักเรียนจะถูกคนสาวรายนี้ตีบ่อยมากและใช้อารมณ์รุนแรงกับเด็กๆ จนทำให้เด็กหลายคนหวาดกลัวไม่อยากเดินทางไปเรียน ล่าสุด รร.ต้นสังกัดย้ายไปสอนห้องอื่นแล้ว
ตามต่อมาด้วยวงการตำรวจ เมื่อมีคลิปเหตุการณ์ในวันที่ 19 ม.ค. 2566 เวลาประมาณ 22.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์ ปรากฎนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนรายหนึ่งอธิบายการทดสอบใช้บริการตำรวจไทยว่าใช้เงินซื้อได้ทุกอย่างตามคำร่ำลือจริงหรือไม่
โดยในคลิปดังกล่าวยังมีภาพตำรวจไปรับถึงประตูเครื่องบิน เดินนำทาง ยกกระเป๋า เปิดประตูรถให้ ขับรถนำเปิดไฟฉุกเฉินไซเรน ในรูปแบบการบริการแตกต่างตามลักษณะพาหนะนำขบวน เช่น หากเป็นรถจักรยานยนต์นำราคา 6,000 บาท และหากเป็นรถยนต์นำราคาอยู่ที่ 7,000 บาท
หลังจากมีการตรวจสอบคลิปดังกล่าว ปรากฎว่า บุคคลที่เห็นในคลิปเป็นตำรวจจริง 3 นาย เป็นตำรวจท่องเที่ยว 1 ราย คือ ร.ต.อ. สมพล ภิญโญสโมสร ตำแหน่ง รองสารวัตร กองกำกับการ 3 (รับผิดชอบสนามบินสุวรรณภูมิ) สังกัดกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 และ ตำรวจ บก.จร. 2 นาย คือ ส.ต.อ.ธนกร นุกูลธนกิจ และ ส.ต.อ.ธนวัฒน์ สิมะขจรบุญ โดยขณะนี้ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและเด้งเข้ากรุไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะเดียวในวันที่ 24 ม.ค. เรื่องราวมาปรากฏในวงการทหาร เมื่อร.ท.ธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตลาดพร้าว พรรคก้าวไกล ออกมากล่าวถึงกรณีเบี้ยเลี้ยงปลอม โดยกล่าวถึงกำลังพลฝูงบิน 702 กองบิน 7 จ.สุราษฎร์ธานี มีชื่อเบิกค่าปฏิบัติงานนอกเวลาราชการของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภารกิจฝึกบินกลางคืน โดยไม่ได้มีการปฏิบัติงานจริงว่า การเบิกค่าปฏิบัติงานนอกเวลาโดยไม่ได้มีภารกิจจริง
เป็นสิ่งที่ตนในฐานะอดีตกำลังพลของกองทัพอากาศ สามารถพูดได้ว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาตลอด และบางครั้งโทรมาขอชื่อเพื่อไปเบิกค่าสัมมนานอกเวลา หรือลงงานนอกเวลาเพื่อขอเบิกค่าล่วงเวลาที่หลัง เหล่านี้ถูกออกมาแฉ และกำลังเป็นที่จับตาของสังคมขณะนี้
เรื่องราวของ 4 วงการอาชีพดังกล่าวมีปรากฎให้เห็นทุกเดือนแต่ดูเหมือนว่าปีนี้จะเริ่มต้นเหมาทุกวงการในเดือนเดียวเรียกได้ว่าเป็นข่าวฉาวและเศร้าสำหรับใครหลายๆคนในเวลาเดียวกัน เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับสังคมไทย แน่นอนว่าเรื่องนี้ ทางผู้อำนาจจะดำเนินการปรับปรุง แก้ไข อย่างไร คงต้องติดตาม