The New York Times เลือกเมืองโมริโอกะ จังหวัดอิวาเตะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดอันดับสองของโลกในปี 2023
ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นประเทศในอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนจำนวนมาก ดังนั้นการจัดอันดับของสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรไปเยือนในปี 2566 ของ The New York Times จึงไม่น่าประหลาดใจมากนัดเมื่อเทียบกับการยกระดับเมืองๆ หนึ่งอย่างโมริโอกะ สถานที่ท่องเที่ยวที่เงียบสงบ แปลกใหม่ไม่หวือหวาเท่ากับโตเกียวหรือโอซาก้า
สถานที่องเที่ยวยอดฮิตของญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวต้องไปเยือน อย่างวัดและสถานที่สำคัญ ของเมืองหลวงเก่าของเกียวโต ทุ่งหิมะยอดนิยมที่เมืองนิเซโกะ เกาะฮอกไกโด หรือเมืองประวัติศาสตร์ อย่างนาราหรือคามาคุระ หรือสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสะเทือนใจของฮิโรชิมะหรือนางาซากิ กลับไม่ได้ถูกนำมาหยิบยกในการการจัดอันดับครั้งนี้
แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่ New York times แนะนำให้มาเยือนรองจากลอนดอน ในปีนี้คือโมริโอกะ เป็นที่น่าแปลกใจของคนในพื้นที่ที่เมืองเล็กๆแห่งนี้ได้รับความสนใจ แต่คงไม่แปลกใจสำหรับผู้มาเยือนมากนัก
โดยเมืองๆ นี้ตั้งอยู่ที่จุดบรรจบของแม่น้ำสามสาย โดยมีแม่น้ำคิตาคามิไหลไปทางทิศใต้ เมืองนี้มีประชากรอาศัยอยู่เกือบ 290,000 คน และล้อมรอบด้วยภูเขาหลายลูกที่มีภูเขาอิวาเตะ ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ
และโมริโอกะเองก็เป็นสถานที่ที่เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน ปราศจากผู้คนจำนวนมาก และอยู่ห่างจากโตเกียวไปทางเหนือเพียงสองสามชั่วโมงโดยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
นักเขียน Craig Mod วัย 42 ปี ผู้เขียนบทความแนะนำเมืองนี้พูดถึงเมืองโมริโอกะ โดยยกตัวอย่าง อาคารแบบดั้งเดิมหลายแห่งได้รับการละเว้นจากการทำลายล้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงแรมแบบดั้งเดิมจำนวนหนึ่งและอาคารยุคไทโช (พ.ศ. 2455-2469) ซึ่งผสมผสานสุนทรียศาสตร์ทางสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกและตะวันออกของโมริโอกะได้อย่างลงตัว
ในขณะที่เลือกพื้นที่สวนซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทโมริโอกะมาจัดแสดง สีแดงและสีน้ำตาลแดงในฤดูใบไม้ร่วง
นักเขียนกล่าวว่าเป็นเมืองโมริกะที่น่าประทับใจ แต่น่าเสียดายเสน่ห์ของเมืองนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
นอกจากนี้บทความยังเลือกร้านกาแฟที่มีการแสดงดนตรีแจ๊สมากว่า 40 ปี ร้านอาหารหลายแห่ง รวมถึงร้านที่ให้บริการอาหาร Wanko Soba ในท้องถิ่น และบ่อน้ำพุร้อนอน เซ็นในบริเวณใกล้เคียงมาแนะนำ
ยกตัวอย่าง การเผยภาพนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มหนึ่ง 10 คนล้อมโต๊ะที่ร้าน Azumaya ซึ่งเสิร์ฟ Wanko Soba โซบะสูตรพิเศษของจังหวัดบรรดานักชิมยต่างยกย่องว่าอาหารที่นี่อร่อยและธรรมชาติในพื้นที่นี้อุดมสมบูรณ์อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม Norie Hatayama ผู้อำนวยการฝ่ายการท่องเที่ยวของเมือง กล่าวว่าผู้เขียนพลาดสถานที่ที่ต้องไปชมหลายแห่งในเมือง รวมถึง Morioka Machiya Monogatari Kan ซึ่งเคยเป็นโรงกลั่นเหล้าสาเกที่ได้รับการดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์
เธอยืนยันว่าการมาเที่ยวโมริโอกะจะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้ลองชิมบะหมี่ท้องถิ่นเหนียวนุ่มที่รู้จักกันในชื่อ Morioka reimen ซึ่งเสิร์ฟเย็นในน้ำซุปเนื้อ หรือ Morioka jajamen ซึ่งเป็นบะหมี่ที่เสิร์ฟพร้อมมิโซะวางที่เป็นเอกลักษณ์
และเมื่อรวมกับวังโกะโซบะแล้ว สิ่งเหล่านี้ประกอบกันเป็น “สามจานบะหมี่ที่ยอดเยี่ยมของโมริโอกะ” เธอกล่าว
หลังบทความดังกล่าวเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวและร้านค้าที่กล่าวถึงในบทความนี้ได้รับการสอบถามและผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นเมืองๆ นี้จึงรอคอยที่จะมีการหลั่งไหลเข้ามามากขึ้นและแน่นอนมันจะได้รับผลในเชิงบวกที่จะมีต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเมืองโมริโอกะ
“เราได้รับเสียงตอบรับเชิงบวกมากมายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนโมริโอกะหลังจากอ่านบทความนี้” พวกเขาหลายคนบอกว่าพวกเขาเห็นด้วยกับบทความนี้และบอกว่าเป็นสถานที่ที่ดีในการเยี่ยมชม เราหวังว่าจะได้เห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นในโมริโอกะ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มาครั้งแรกหรือผู้ที่กลับมาเยี่ยมชมอีกครั้ง” Hatayama กล่าว
ที่มา South China Morning Post