(19 เม.ย.66) นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) รับผิดชอบภาคอีสาน เปิดเผยว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากผู้สมัครส.ส.ของพรรคว่า ป้ายหาเสียงของผู้สมัครส.ส.ภาคอีสานถูกทำลายเกือบทุกพื้นที่ ล่าสุดในวันนี้ที่จังหวัดอุบลราชธานี เขตเลือกตั้งเดียวป้ายถูกทำลายกว่า 200 ป้าย โดยเฉพาะป้ายที่มีรูปหน้าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นากยกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคถูกทำลายแบบตั้งใจจำนวนมาก
ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้สมัครเพราะ 1 ป้าย ต้องใช้เงินหลายร้อยบาท ทำให้ผู้สมัครเดือดร้อน ดังนั้นจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ จะ เรียกร้องผ่านกกต.คงไม่มีกำลัง จึงขอแจ้งไปยังตำรวจในพื้นที่อย่านิ่งเฉย ตนได้เน้นย้ำแล้วเขตเลือกตั้งใดถ้ามีการทำลายป้ายแบบผิดปกติ ผู้สมัครทุกคนต้องไปร้องทุกข์ไว้กับพนักงานสอบสวนในสถานีที่เกิดเหตุ
“ผมขอส่งสัญญาณไปยัง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ด้วย การทำลายป้ายถือเป็นความผิดทางอาญา แม้จะยอมความกันได้ แต่ตำรวจต้องติดตามตัวคนทำลายมาให้ได้ จะปล่อยให้เกิดสภาพแบบนี้ไม่ได้ ตำรวจต้องเอาจริงเอาจัง ถ้าจับได้ว่าเป็นคนของพรรคใดพรรคหนึ่งทำลาย ตำรวจก็ต้องส่งเรื่องให้ กกต.เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ถ้าจะบอกลมพัดป้ายล้มก็อาจจะล้มได้ แต่ถนนเส้นหนึ่งป้ายของพรรครวมไทยสร้างชาติล้มทั้งหมด ขณะที่ไปป้ายพรรคการเมืองอื่นไม่ล้มไม่ถูกทำลาย จึงไม่ใช่เป็นเรื่องของลม แต่เป็นลมโมโห ตั้งใจจะทำลายมากกว่า” นายวิทยากล่าว
รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวด้วยว่า วันนี้ป้ายพลเอกประยุทธ์ถูกทำลายมากกว่าพรรคการเมืองอื่น โดยเฉพาะในจังหวัดขอนแก่น อุบลราชธานี และอุดรธานีถูกทำลายเยอะมาก เป็นการส่งสัญญาณว่า คู่ต่อสู้เริ่มเกรงกลัวคะแนนของพลเอกประยุทธ์ที่ไล่ตามมาอย่างมีนัยยะสำคัญ การทำลายป้ายเป็นการทำลายฝันกำลังใจผู้สมัคร เพราะผู้สมัครรวมไทยสร้างชาติหลายคนมีค่าใช้จ่ายน้อย จะมานั่งซ่อมป้ายคงไม่ไหว มีทางเดียวตำรวจต้องเข้าไปดูแล ถ้าจับได้สักคน จะเป็นการปรามได้ แต่ป้ายกว่า 200 ป้ายถูกทำลายจับใครไม่ได้เลยน่าสงสัย
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีความคืบหน้าจากตำรวจในสัปดาห์หน้าตนจะรวบรวมใบแจ้งความ ในแต่ละเขตเลือกตั้งเพื่อนำเสนอต่อพลเอกประยุทธ์โดยตรง เพราะป้ายที่ถูกทำลายเป็นป้ายที่มีรูปหน้าพลเอกประยุทธ์มีทั้งกรีดหน้า หรือทำลายลงทั้งป้าย พลเอกประยุทธ์อาจจะไม่ทราบแต่ตนจะต้องเรียนให้ทราบในเรื่องนี้ ในฐานะที่เป็นบุคคลที่พรรครวมไทยสร้างชาติได้เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี
