ถอดความนัย บทสัมภาษณ์ “แพทองธาร”ทักษิณกลับบ้าน ข้อมูลต้องครบ-ไม่ถูกหลอก

“เรื่องอยากให้กลับ ก็อยากให้กลับอยู่แล้ว แต่อิ๊งค์อยากให้คุณพ่อเป็นคนตัดสินใจเองว่าท่านอยากกลับมาตอนไหน อยากกลับมาอย่างไร เพราะท่านเองก็ออกไปนานมากแล้วก็คงมีความตั้งใจที่อยากจะกลับมา ท่านอยากกลับมาเลี้ยงหลานยิ่งตอนนี้เพิ่งจะมีหลานคนที่ 7 ก็ยิ่งอยากกลับ แต่ตรงนี้ก็ให้ท่านตัดสินใจเองดีกว่า”

ประเด็นที่ 3 ถ้าจะกลับบ้านต้องดูข้อมูลให้ครบถ้วน-ตัดสินใจให้ดี

“เราไม่มีการเบรก เราพูดแค่ว่าเป็นห่วง ดูข้อมูลให้ครบ ตัดสินใจให้ดี ซึ่งเป็นข้อความที่เราพูดเสมอ ไม่ได้มีการพูดว่าอย่ากลับมานะ ตอนนี้กลับไม่ได้ ตนคิดว่าจะไม่แฟร์กับคุณพ่อด้วย ท่านออกไป 17 ปี ท่านจะกลับมาตอนไหน ก็ให้เป็นเรื่องที่ท่านตัดสินใจเองดีกว่า ชีวิตก็เป็นของท่าน ซึ่งคุณพ่อเองก็รับฟังและเราฟังกันอยู่แล้ว แต่สุดท้ายแล้วการตัดสินใจของใครก็เป็นเรื่องของคนนั้น”

ประเด็นที่ 4 ยืนยันปฏิทินเดิมทักษิณกลับไทย-ไม่มีเลื่อน

เมื่อถามย้ำว่า นายทักษิณยังยืนยันว่าจะกลับเดือนก.ค.เหมือนเดิมใช่หรือไม่

“คุยล่าสุดก็ยังเป็นเช่นนั้น เมื่อพวกตนถามว่าได้ดูสถานการณ์ทางการเมืองหรือไม่ ท่านก็ตอบว่าดูอยู่แล้ว ท่านไม่อยากกลับมาแล้วเป็นความวุ่นวาย แน่นอนคุณพ่อมีความสำคัญทางการเมือง หากจะกลับมาก็ต้องดูเรื่องความเหมาะสม หากจะเปลี่ยนแพลนกลับหรือไม่เปลี่ยนก็ต้องดูเรื่องความเหมาะสมด้วย”

เมื่อถามต่อว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเลื่อนเดินทางกลับ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “ไม่ค่ะ ตอนนี้ยังไม่มี แต่ที่พูดหมายความว่าเราต้องดูใกล้ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่นี่อิ๊งค์คิดแทนนะ คุณพ่อไม่ได้พูดกับอิ๊งค์ เรื่องวันที่เขาบอกจะให้อิ๊งค์ประกาศเขาก็ยังไม่ได้บอกว่าจะเลื่อน”

ประเด็นที่ 5 ระวังถูกหลอก!!

เมื่อถามว่า กระแสข่าวการพูดคุยของครอบครัวชินวัตร ที่มีประเด็นที่ไม่อยากให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ฐานะคุณพ่อกลับมาเพราะกลัวถูกหลอกนั้นหมายถึงอะไร

“ขยายความได้แน่นอน เพราะมันไม่มีอะไรเลย เรื่องถูกหลอกนั้นคำว่าถูกหลอกคืออะไร ตลอดเวลาที่คุณพ่อไม่อยู่ประเทศไทยมา 17 ปี แน่นอนว่ามีข้อมูลข่าวสารที่ท่านได้รับ ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นถูกบ้างผิดบ้าง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น เราไม่คิดว่าใครจะมาหลอกเราหรืออะไรเป็นพิเศษ เป็นสิ่งที่ครอบครัวคุยกันว่าอยากให้ดูข้อมูลให้ดี ให้คิดให้ดีจะทำอย่างไร เป็นความห่วงใยที่เตือนสติกัน”

สรุปรวมความได้ว่า ข่าวปล่อยจากวงทานข้าวของตระกูลชินวัตรที่กระเพื่อมทั่วไทยเมื่อสัปดาห์ก่อน มีเป้าหมายชัดที่ต้องการสื่อสารเพื่อให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง-ผู้มีอำนาจตัดสินใจ รับรู้ถึงคำขออนุญาตและความปรารถนาที่ต้องการกลับไทย

อย่างไรก็ตาม การกลับบ้าน จำเป็นต้องการ “ข้อมูลที่ครบถ้วน” ก่อน “ตัดสินใจขั้นสุดท้าย” ซึ่งข่าวปล่อยเช่นนี้ จะช่วยทำให้มีข้อมูลสะท้อนกลับมาจากหลายฝ่ายมากยิ่งขึ้น

เพราะขึ้นชื่อว่าเป็น “คำขออนุญาตกลับบ้าน” จึงคิดเองฝ่ายเดียวไม่ได้!!