จับสัญญาณใกล้ได้กราบแผ่นดิน

ปฏิทินการเมืองประเทศไทย ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ดำเนินไปถึงจุดที่ใกล้จะได้ ประธานรัฐสภาคนใหม่ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่

ในปฏิทินเดือนเดียวกันนี้ ยังมีกำหนดการกลับบ้านของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ยังไม่มีสัญญาณเปลี่ยนแปลงวัน

แม้ “คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์” จะปล่อยข่าวชะลอการกลับบ้าน ไม่ต้องการให้อดีตนายกฯ ถูกหลอกซ้ำ

แต่เมื่อถาม “แพทองธาร” เรื่องกำหนดการกลับบ้านของพ่อ กลับพบว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ยังคงเป็นคำขออนุญาตเดิม ยังคงเป็นกำหนดการเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง วัน-เวลา

“พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์” ผบช.สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยืนยันว่าจะปฏิบัติตามหน้าที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งตามระเบียบที่ต้องดำเนินการตามปกติไม่มีการยกเว้นหรือเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด

“ผมว่าตรงนี้ต้องใช้หลักกฎหมายเป็นพื้นฐานในการปฏิบัติ ไม่น่าเป็นห่วงอะไรทั้งสิ้น พร้อมยอมรับว่าก็ต้องเตรียมการ เพราะว่าทุกคนถ้าหากเข้ามาในส่วนของราชอาณาจักรไทย ก็ต้องยึดถือตามกฎระเบียบ สตม. ก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอยู่แล้ว”

ตีความได้ว่า เป็นซินาริโอทางการเมืองที่เป็นไปได้

เช่นเดียวกับที่ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการกลับบ้านของทักษิณไว้ว่า “ถ้ากลับมาก็ดำเนินคดี ก็จบ อยู่ในขั้นตอนของกฎหมายมีอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น ผมไม่ใช่ศัตรูของใครทั้งสิ้น …ถ้าเราเอาความขัดแย้ง ประเทศชาติก็เดินไม่ได้”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าถึงเวลาสลายขั้วชินวัตรและขั้วอื่นๆ แล้วหรือไม่ พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่มีขั้วอะไรทั้งนั้น เราไปแยกขั้วกันเอง”

เป็นอีกครั้งที่ซินาริโอ อดีตนายกฯ กลับบ้าน ยังไม่ได้รับการปฏิเสธแบบสุดลิ่มทิ่มประตู

หากทักษิณจะกลับบ้าน ย่อมเป็นฉากทัศน์ทางการเมืองที่ผู้มีอำนาจทุกระดับในประเทศย่อมรับทราบ เมื่อประมวลสัญญาณรวมๆ เวลานี้ จึงเป็นบวกต่อทักษิณ

แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงเริ่มปล่อยข่าวแล้วว่า ฉากกราบแผ่นดินของทักษิณจะดำเนินไปคล้ายกับการกลับบ้านครั้งแรกหลังการรัฐประหารปี 2549 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551

09.45 น. เครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบินทีจี 603 ที่เดินทางจากฮ่องกง แตะพื้นรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ

เมื่อได้พบปะกับครอบครัว และผู้นำทางการเมืองที่มารอต้อนรับแล้ว อดีตนายกฯ ก้าวออกจากอาคารรับรอง ก่อนจะก้มกราบแผ่นดินแม่ต่อหน้ามวลชนที่มาต้อนรับ

จากนั้นได้เดินทางเข้ามอบตัวที่ศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามหมายจับในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ก่อนจะเข้ามอบตัวในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นในบริษัทเอสซี แอสเสทฯ ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก

ในช่วงเปิดใจที่โรงแรมเพนนินซูล่า ทักษิณกล่าวว่า “วันนี้กลับมาถูกกล่าวหา ต้องพิมพ์ลายนิ้วมือ เปรียบเหมือนเป็นผู้ต้องหาสำคัญ ก็รู้สึกเสียใจ สิ่งที่เกิดกับผมและครอบครัว เป็นสิ่งที่น่าเสียใจ …เหตุที่กลับมา เพราะหลังจากประชาชนไปใช้สิทธิ เหตุการณ์คลี่คลาย ประชาธิปไตยกลับคืนมา ผมจำเป็นต้องมาพิสูจน์และรักษาชื่อเสียงของผมที่ถูกทำลายอย่างไม่เป็นธรรม และการกลับมาวันนี้ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับการเมือง…”

เช่นเดียวกับที่ย้ำในทุกช่องทางว่า เป้าหมายกลับบ้านในปี 2566 จะไม่เป็นภาระใคร ไม่เป็นภาระต่อพรรคเพื่อไทย และเป็นคำขออนุญาตกลับบ้านที่ดำเนินไปอย่างถ่อมเนื้อถ่อมตัว รอคอยสัญญาณยืนยันครั้งสุดท้าย!!