สถานการณ์ในเวลานี้ดูเหมือนว่าการเมืองจะไม่เป็นจิตปดิพัทธ์ สำหรับพรรคการเมืองอย่างก้าวไกลอีกต่อไปแล้ว การเมืองที่เคี่ยวจนใกล้จะงวดเต็มที ทำให้ยิ่งใกล้ยิ่งไม่รู้จักกัน
เมื่อพรรคเพื่อไทยยืนยันผลการประชุมกรรมการบริหารพรรค และส.ส. พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. มีมติให้คณะทำงานเจรจา หารือพรรคก้าวไกล เพื่อสรุปตำแหน่งประธานสภา โดยสมาชิกส่วนใหญ่เห็นว่า ควรเจรจาในสูตร 14 รัฐมนตรี + 1 ประธานสภาฯ ถือ เป็นสูตรที่เป็นธรรม คำนึงถึงความเสมอภาค ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
และที่สำคัญที่ต้องขีดเส้นใต้ชัดๆ คือ มีวุฒิภาวะ เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
เมื่อมาเทียบดูแล้ว พรรคก้าวไกลมีการเสนอชื่อ “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” นามหมออ๋อง ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 ในฐานะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล สัดส่วนภาคเหนือ เป็นประธานสภาฯ ผู้ล้มช้างวรงค์ เดชกิจวิกรมให้ซัดซวนเซไม่เป็นท่า เข้าชิงชัยในตำแหน่งประธานสภาฯ
“ปดิพัทธ์” วัย 42 ปี เคยเป็นสัตวแพทย์ และมีประสบการณ์ในด้านการเมืองเคยเป็นประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน อีกทั้งเคยอภิปรายตีแผ่ทุจริตกองทัพ ต้นตอกราดยิงโคราช และเป็นหนึ่งในมืออภิปรายเกี่ยวกับการแก้ไขระบบเลือกตั้งและรัฐธรรมนูญของพรรคก้าวไกล
ขณะที่ปอนด์ของอีกฟาก จากปากของพ่อใหญ่ตุ๊ “อดิศร เพียงเกษ” แว่วว่ามีการแจกโปสเตอร์แนะนำตัวอย่างลับๆ ในหมู่สมาชิกส.ส. พรรคเพื่อไทย ของชายผู้เกิดมาดี อย่าง สุชาติ ที่ครั้งที่แล้วแม้จะพลาดไปเสี้ยววินาทีแต่ครั้งนี้จะขอชิงชัยเก้าอี้ประธานสภาฯ ให้พร้อมสมกับการเกิดมาดีอีกครั้ง
“สุชาติ ตันเจริญ” เจ้าของฉายา ตี๋กร่าง ฉายาที่ได้มาจากการทำหน้าที่รองประธานสภาฯ ลักษณะถึงลูกถึงคนไม่ยอมใครง่ายๆ ในปี 2548 มีลูกล่อลูกชนบนบัลลังก์มาอย่างยาวนาน
นอกจากนี้ ยังเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดฉะเชิงเทรา 9 สมัย เจ้าของต้นสังกัดกลุ่มบ้านริมน้ำ ผู้มากบารมี เคยสังกัดพรรคการเมืองหลายพรรค ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคสามัคคีธรรม พรรคไท พรรคชาติไทย พรรคไทยรักไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และล่าสุดพรรคเพื่อไทย เรียกได้ว่าเป็นตัวแปรทางการเมืองที่มากบารมีคนหนึ่งที่ทุกพรรคต่างหมายปอง
บารมีที่สั่งสมมานานมิใช่เพิ่งก่อร่างสร้างตัวไม่กี่วันแต่ด้วยประสบการณ์การทำงานทำให้ชื่อของสุชาติ เป็นชื่อที่โยนมาทีไรก็ไม่เคยช้ำ หลายฝ่ายให้การตอบรับ สมกับเจตนาของพรรคเพื่อไทยอย่างไรอย่างนั้น
เวลานี้คงเดาใจกันไม่ออกว่าพรรคก้าวไกลกับเพื่อไทยจะเจรจากันอย่างไรในเรื่องนี้ เพราะชื่อหมออ๋องยังไม่ว้าวพอที่จะกลบชื่อสุชาติได้
สุดท้ายแล้ว “หากความจริงคนเราไม่รักก็คือไม่รักกัน
เรื่องจริงที่เราไม่พูดมันไม่มีอะไรจะเหมือนเดิมต่อไป
อดทนมานานอาจทรมานไม่เหลือใครจะเสียเวลาหรือเสียใจ เรื่องเดียวที่เจอตอนท้ายก็คือไม่รัก” สัจธรรมในเพลงที่ใช้ได้กับสถานการณ์ขณะนี้