มีก้าวไกล มี 112 – ไม่มีเรา!!เปิดยุทธศาสตร์โดดเดี่ยวพรรคก้าวไกล

วงหารือ 8 พรรคร่วมรัฐบาลวันก่อน ในวาระที่พรรคก้าวไกล ส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่ประชุมมีมติให้พรรคเพื่อไทยเดินสายหารือกับพรรคการเมือง-สมาชิกวุฒิสภาได้ เพื่อให้รู้ถึงเงื่อนไขที่จะทำให้ได้เสียงโหวตมากยิ่งขึ้น

เป็นที่มาให้พรรคภูมิใจไทย-พรรคชาติพัฒนากล้า-พรรครวมไทยสร้างชาติ ตอบรับคำเชิญตบเท้าเข้าพรรคเพื่อไทย ขณะที่พรรคพลังประชารัฐขยับนัดหมายเป็นวันนี้ (23 ก.ค. 2566) เวลา 16.00 น.

ฉากหน้าคือการหารือเพื่อหาทางออกให้ชาติบ้านเมือง ทว่าฉากหลังคือปฏิบัติการโดดเดี่ยว “พรรคก้าวไกล” ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

ทุกพรรคที่ตบเท้าเข้าพรรคเพื่อไทย ประกาศตรงกันว่า “มีก้าวไกล มี 112 – ไม่มีเรา!!”

อนุทิน ประกาศว่า “ผมได้แจ้งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้ว ถ้าเราจะเข้ามามีส่วนร่วมใดๆ คงไม่สามารถทำงานได้ ถ้าการร่วมรัฐบาลยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งใด แต่เป็นเรื่องแนวทางการทำงาน ความคิด วิธีการทำงาน ทางหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคงจะไปพิจารณาข้อจำกัดของเรา”

สุวัจน์ ประกาศว่า “เราพร้อมเข้าร่วมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยจัดตั้ง และสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา แต่หากพรรคก้าวไกล หรือการแก้ไข ม.112 ยังคงอยู่ พรรคชาติพัฒนากล้าก็ไม่สามารถไปร่วมรัฐบาลภายใต้การจัดตั้งของพรรคเพื่อไทยได้ เพราะไม่เป็นไปตามมติพรรคที่ได้ประกาศกับประชาชน”

พีระพันธ์ ประกาศว่า “จุดยืนเหมือนเดิม ไม่เอา ม.112 ไม่เอาก้าวไกล ตอนนี้ลุงตู่ ไม่เกี่ยวลาออกแล้ว…ถ้ามีพรรคที่เรารับไม่ได้ก็ไม่ร่วมรัฐบาล แต่วันนี้ยังไม่ได้มีการคุยเรื่องการตั้งรัฐบาลมาแค่อธิบายเหตุผล และไม่ได้ต้องการขัดขวางการตั้งรัฐบาล และบอกอะไรคือเหตุผลที่ รทสช.ต้องปฏิเสธ”

ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ นำโดย “สันติ-ธรรมนัส” ที่เข้าหารือกับพรรคเพื่อไทยเมื่อเย็นวานนี้ ประกาศล่วงหน้าแล้วว่า จุดยืนของ พปชร. ก็เป็นไปอย่างพรรคอื่น นั่นคือ มี 112 – ไม่มีเรา

ซินาริโอทางการเมือง มีแนวโน้มขยับตามลำดับนี้

(1) พรรคเพื่อไทยรวบรวมความเห็นทุกพรรคการเมือง เว้นพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุม 8 พรรคร่วม

(2) ในวงประชุม พรรคก้าวไกล ต้องตัดสินใจว่า จะลดเพดาน ม.112 ลงไป เพื่อร่วมรัฐบาล หรือถอยเป็นฝ่ายค้าน หลายพรรคการเมืองประกาศแล้วว่า ถึงพรรคก้าวไกลลดเพดาน-ก็ไม่เอา สิ่งที่อยากเห็นคือไม่มีพรรคก้าวไกล ร่วมในรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย

(3) ในกรณีถอยเป็นฝ่ายค้าน จะมีพรรคใดตามออกไปเป็นฝ่ายค้านอีกบ้าง? แนวโน้มเวลานี้ มี “พรรคเป็นธรรม” เพียงพรรคเดียวที่พร้อมเดินเคียงก้าวไกล

(4) พรรคเพื่อไทย ประกาศจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกับพรรคการเมืองอื่นๆ ซึ่งมีแนวโน้มเป็นพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนากล้า (กรณี รทสช. อาจเป็นการพิจารณาโหวต โดยไม่ร่วมรัฐบาล)

(5) ฉากทัศน์สุดท้ายก็คือโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 27 ก.ค. นี้ หลังวันเกิด “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย เพียง 1 วัน

นาทีนี้ คล้ายกับว่า ความขัดแย้งระหว่าง “ระบอบทักษิณ” และ “ชนชั้นนำ” ได้สิ้นสุดลงแล้ว เพราะทุกขุมข่ายอำนาจในประเทศมีศัตรูคนใหม่ร่วมกัน การเมืองไทยจึงดำเนินไปในลักษณะ “อะไรที่ไม่เคยเห็น-ก็จะได้เห็น”!! และก็จะได้เห็นอย่างต่อเนื่องนับจากวันนี้!!