74 ปี ทักษิณคิด-รัฐบาลเพื่อไทยทำตั้งเป้า “คนไทยต้องไร้จน”!!

“ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีที่ผลงานการพัฒนาประเทศมากที่สุดคนหนึ่ง ประกาศวันกลับไทยแล้วผ่านลูกสาว นัดหมายเป็นวันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม 2566

คำประกาศของ “ทักษิณ-แพทองธาร” ย่อมสัมพันธ์กับการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทยที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้

ในวันที่พรรคเพื่อไทยกลับคืนสู่ทำเนียบไทยคู่ฟ้า ทำให้ต้องกลับไปอ่านยุทธศาสตร์ที่ต้นขั้ว-ผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคว่าในวันนี้ เขาคิดอะไรเพื่อบ้านเมือง และหวังให้รัฐบาลเพื่อไทยบริหารประเทศไปในทิศทางใด-ด้วยโจทย์ใด เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ตรงจุด

หัวใจ-เป้าหมายของทักษิณไม่เคยเปลี่ยน นั่นคือ “คนไทยต้องไร้จน” เป้าหมายนี้หนักแน่น-มั่นคง ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงวันนี้

ในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ทักษิณย้ำว่า ต้องสนับสนุนพรรคก้าวไกลไปให้สุดทาง “วันนี้ที่ผมคุยกับลูกสาว ทุกคนยืนยันว่าเราจะยึดหลักการประชาธิปไตย เราจะไม่มีทางออกนอกลู่นอกทางของระบบประชาธิปไตยแน่นอน ไม่งั้นเราจะเป็นพรรคที่พูดเรื่องประชาธิปไตยไม่ได้”

“ท่าทีของพรรคเพื่อไทย ถือว่ามีน้ำใจนักกีฬาสูง พอจบปุ๊บ บอกเลยพรรคที่หนึ่งตั้งรัฐบาล เราสนับสนุน แม้เขาไม่เชิญมาเป็นพรรคร่วม เราจะยกมือให้ นี่คือสปิริตที่คุณอิ๊งค์พูดตั้งแต่วันแรก เป็นจุดยืนวัฒนธรรมองค์กรมานานตั้งแต่พรรคไทยรักไทย”

รัฐบาลเพื่อไทยมีเป้าหมายใหญ่คือคนไทยไร้จน เพื่อจะไปถึงตรงนั้น ต้องลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ผ่านนโยบายต่างๆ

“ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส คือ หมายความว่ารายจ่ายบางอย่างถ้ารัฐช่วยได้ก็ช่วยในเชิงลดภาระประชาชน” ยกตัวอย่างโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคที่ทักษิณหวังให้เป็นรัฐสวัสดิการที่ดีที่สุดในโลก

“ส่วนที่รัฐจะช่วยได้คือค่ารักษาพยาบาล และจะยกระดับด้วยการเอาเทคโนโลยีมาใช้ จองคิวผ่านแอป รักษาได้ทุกโรงพยาบาลด้วยบัตรประชาชนใบเดียว มีระบบ Clearing house ที่วางไว้ตั้งแต่ไทยรักไทย แต่ยังไม่ทันสมัยพอ ตอนนี้เทคโนโลยีทันสมัยแล้ว ทะเบียนคนไข้อยู่ในคลาวด์แล้ว สั่งยาตรงไหนก็ได้ และเพิ่มวัคซีน เพิ่มยาให้ด้วย รับรองเลยว่า 30 บาทรักษาทุกโรคยุคใหม่ จะเป็นรัฐสวัสดิการรัฐที่ดีที่สุดในโลก

ทักษิณ บอกว่า “ประเทศจะแข็งแรง ต้องทำให้คนข้างล่างแข็งแรงแล้วคนชั้นกลางก็จะแข็งแรงไปพร้อมกัน” ในช่วงเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจึงจุดประเด็นว่า ทุกครัวเรือนต้องมีรายได้ 2 หมื่นบาทต่อเดือน หรือมากกว่านั้นให้ได้

“เรื่องหลักการของนโยบายครัวเรือนละ 2 หมื่นบาท คืองี้ที่เพื่อไทยเขาคิดนะ เขาบอกว่า จีดีพีประเทศ มันควรจะต้องโตมากกว่านี้ แต่มันไม่โตเพราะคนฐานรากที่มีจำนวนมากถ่วงไว้ ซึ่งที่ถ่วงไว้ไม่ใช่เพราะอยากถ่วง แต่เพราะบริหารจนมีช่องว่างรายได้ ทีนี้(ว่าที่)รัฐบาลเพื่อไทยเขาบอกว่า เขาจะอุ้มคนฐานรากขึ้นมา และจะได้ดันขึ้นไปข้างบนด้วย คนรากหญ้าโตขึ้นเขาก็บริโภค ก็ทำให้ชนชั้นกลางมีรายได้มากขึ้นจากการบริโภคของคนรากหญ้า และทำให้คนชั้นบนสูงขึ้นไปอีก”

“เมื่อรายได้ของทุกคนมากขึ้น รัฐบาลก็จะเก็บภาษีได้มากขึ้น เมื่อรายได้มากขึ้นก็ไม่ต้องไปเพิ่มภาษี ยังคงอัตราเดิม แต่จะเก็บได้มากขึ้น เมื่อได้ภาษีมากขึ้นก็จะกลับมาพยุงคนข้างล่างต่อเพราะประเทศแข็งแรงแล้ว”

“เราต้องดันตั้งแต่ข้างล่างเพื่อให้ทั้งสังคมขยับสูงขึ้น ประเทศจะแข็งแรง ต้องทำให้คนข้างล่างแข็งแรง และคนชั้นกลางก็จะแข็งแรงไปพร้อมกัน”

ทักษิณ บอกว่า แจกเงินแบบบัตรคนจน ไม่ใช่คำตอบในการบริหารประเทศ แต่ต้องคิดวิธีช่วยหาเงิน-สร้างรายได้ เพื่อให้ “คนไทยไร้จน”

“พรรคเพื่อไทยเขาเสนอนโยบายสร้างรายได้ก่อนนะ …ถ้าคนทำงานก็จะได้ค่าแรงเพิ่ม ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือข้าราชการก็จะมีเงินเดือนเพิ่มขึ้น ถ้าเป็นเกษตรกรก็จะได้ผลผลิตเพิ่ม รายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ถ้าใครมีศักยภาพด้านสร้างสรรค์ หรือวิทยาศาสตร์ก็เอามาฝึกทักษะให้มีงานทำ เช่น ฝึกแม่ครัวพ่อครัว ก็ทำครัวไทยสู่ครัวโลก เปิดร้านอาหารไทยในต่างแดน และมี Food Festival นี่คือการคิดหารายได้ให้ก่อน มีงานทำ”

ทุกพรรคขายนโยบายประชานิยมหมด แต่พรรคเพื่อไทยต่างจากทุกพรรค ตรงที่พิสูจน์แล้วว่า หาเงินเป็น!!

“เวลาออกนโยบาย ต้องคิดด้วยว่า ต้องมีนโยบายหาเงินประกอบด้วย ถ้าไม่มีแล้วจะใช้เงินอย่าง สุดท้ายจะเหมือนเวเนซุเอลา ดังนั้น ผู้นำต้องคิดว่าจะหาเงินยังไง ใช้เงินเก่งแต่หาเงินไม่เป็น เละ”

“เราอยากให้ประชาชนมีรายได้ แต่ต้องไม่ใช่ด้วยการแจกเงินไปวันๆ วันนี้ผมเห็นนโยบายของแต่ละพรรค มักจะเป็นท่อนๆ ขาดการมองภาพรวมว่าเราจะลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ประชาชนยังไง เพื่อให้วนกลับมาเป็นภาษีให้รัฐมาพัฒนาประเทศต่อ ซึ่งส่วนใหญ่จะพยายามแข่งกันประชานิยม คือ จ่ายอย่างเดียว แต่ยังไม่เห็นนโยบายหาเงินเลย”

ในวัย 74 ปี “ทักษิณ” หวังกลับบ้านเลี้ยงหลาน พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม “อะไรจะเกิดได้ก็เกิดไม่มีปัญหา ชีวิตเกิดมาแค่นั้น อายุจะ 74 ปีเดือนก.ค.นี้ก็กำไรมากแล้ว ก็ถือว่ากำไรแล้ว อย่าไปคิดอะไรมาก ถ้าเราผ่านพ้นไปที่เหลือคือความสุขอยู่กับหลาน”

รัฐบาลเพื่อไทยบริหารประเทศครั้งนี้ ไม่เหมือนหนก่อนๆ ที่ได้อำนาจรัฐ เพราะวันนี้ มีทักษิณตัวจริงช่วยคิด-มีรัฐบาลเพื่อไทยช่วยทำ ระดมทุกสรรพกำลัง หวังคนไทยไร้จน