แม้การรวมเสียงข้างมากในสภา เพื่อทะลุตัวเลข 376 เสียง จะยังมีลักษณะไม่เป็นทางการอยู่สูง ดำเนินไปในลักษณะตีเช็คเปล่าทางการเมือง ซึ่งผิดแปลกจากธรรมเนียมการเมืองไทย
เห็นจากที่พรรคพลังประชารัฐ ออกมาประกาศหนุนรัฐบาลเพื่อไทย แต่ยังไม่มีภาพนั่งจับมือกันให้ตีความได้ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
เห็นได้จากคำชวนของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ไปยัง “ธนกร วังบุญคงชนะ” ว่าหากจะไปร่วมรัฐบาล ให้ไปเป็นพรรค ไม่ใช่ไปเป็นคน-กลุ่ม จะสวยงามสมฐานะที่เป็น สส.
เห็นได้จากที่ สว. เริ่มทยอยออกประกาศสนับสนุน “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
เร็วที่สุดที่จะได้นายกฯ คนใหม่ คือในวันอังคารที่ 22 สิงหาคม 2566 นี้
ระหว่างที่ความรุ่มร้อนกระจายตัวทั่วแผ่นดิน ความนิยมของ “เศรษฐา” ตกต่ำล่วงหน้า พรรคเพื่อไทยก็รุกขยับแคมเปญ ติดป้ายประกาศชัดๆ ตัวใหญ่ๆ ตามสไตล์ถนัดว่า “เดินหน้าตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย แก้ปัญหาให้ประชาชน”
พร้อมนัดหมาย แคนดิเดตนายกฯ-แกนนำพรรค-สส. และเครือข่ายคนเสื้อแดงทั่วประเทศ เดินหน้าแคมเปญแก้ไข รธน.- แก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน ย้ำสารเดิมที่พรรคได้เคยประกาศไว้ช่วงเลือกตั้ง เพื่อกลบความโกรธของคนที่ปะทุอยู่ทั่วประเทศ
สารที่หนึ่ง คือ “เพื่อไทยเป็นรัฐบาล ร่าง รธน. ใหม่ของประชาชน” ประกาศว่า จะเร่งแก้ไข รธน. โดยในการประชุม ครม. วาระแรก-ครั้งแรก จะมีมติขอให้ทำประชามติขอจัดทำ รธน. ฉบับใหม่ โดยกระบวนการจัดตั้งสมาชิกสภาร่าง รธน. (สสร.) เพื่อให้มี รธน.ฉบับประชาชนโดยเร็ว
สารที่สอง คือ “เพื่อไทยเป็นรัฐบาล Digital wallet คนละ 10,000 บาท เดินหน้าทั่วไทย” สารนี้เป็นนโยบายที่หวังใช้กระชากใจในช่วงเลือกตั้ง แต่โดนข้อวิจารณ์หนักหน่วงจนล้มพับไป ไม่ได้เป็นปัจจัยในการกระตุกความนิยมให้กลับมาในช่วงโค้งสุดท้าย
พรรคเพื่อไทย ประกาศว่าพร้อมเดินหน้านโยบาย Digital wallet 10,000 บาท โดยคนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จะได้ กระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) สำหรับจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ซึ่งจะเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนและกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
“เผ่าภูมิ โรจนสกุล” รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ย้ำถึงเงื่อนไขของการดำเนินนโยบายว่า 1.ประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นได้ จะได้เงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ตที่จะถูกสร้างโดยรัฐบาลเพื่อไทย
และ 2. ใช้จ่ายในรัศมี 4 กิโลเมตร แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามลักษณะภูมิประเทศเพื่อประโยชน์สูงสุด ใช้ภายใน 6 เดือน สามารถใช้จ่ายด้วยบัตรประชาชนผ่านแอปพลิเคชัน แต่หากไม่สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันสามารถใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมโค้ดส่วนตัวได้เช่นกัน
สารที่สาม คือ “เพื่อไทยเป็นรัฐบาล ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ลดราคาทันที” เพราะปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไข พรรคเพื่อไทยมีแนวทางในการปรับลดราคาพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้าและก๊าซ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้ประชาชน
สารที่สี่ คือ “เพื่อไทยเป็นรัฐบาล พักหนี้เกษตรกร 3 ปี พักหนี้ SME 1 ปี ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด(รหัส21)” ภาระหนี้สินเป็นเรื่องเร่งด่วน พักหนี้เกษตรกร 3 ปี ทั้งต้น ทั้งดอก เพื่อลดภาระและเปิดโอกาสใหม่ในการทำมาหากิน และผลักดันการพักชำระหนี้ SME ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด(รหัส 21) 1 ปี คู่ขนานไปกับการปรับโครงสร้างหนี้แบบเฉพาะเจาะจง
และสารล่าสุด คือ “เพื่อไทยเป็นรัฐบาล เดินหน้า 1 ครอบครัว 1 Soft Power สร้างแรงงานทักษะสูง สร้างรายได้ใหม่” ประกาศยกระดับทักษะคนไทยให้เป็นแรงงานทักษะสูง 20 ล้านคน มีรายได้อย่างน้อย 200,000 บาทต่อปี และพร้อมสนับสนุนทุกอุตสาหกรรม Soft Power ปลดปล่อยเสรีภาพ ปลดล็อกกฎหมาย ทลายทุกอุปสรรค สนับสนุนเงินทุนขยายการส่งออกโดยมี “THACCA” (Thailand Creative Content Agency)ที่จะทำหน้าที่สร้างระบบนิเวศทั้งหมดเพื่อสร้างอุตสาหกรรม Soft Power ไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
นาทีนี้ ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะโพสต์ หรือแสดงความเห็นอะไร ผ่านโซเชียลมีเดีย จะพบคอมเม้นต์เชิงลบผ่านตาเต็มไปหมด เช่น “ทำได้เหรออยู่กับแก้งค์ทหาร” “จะแก้อะไรได้บ้าง ถ้าเอาลุงเข้าไป” “อันนี้เป็นเทคนิคหาเสียงรึเปล่าครับ” “พูดจริงหรือเป็นเทคนิคค่ะ” “ลงรัวๆ โฆษณาเก่งมาก” “พรรคตระบัดสัตย์” “คณะรัฐบาลเดิม เพิ่มเติมคือเพื่อไทย”
นักยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยได้ชัยในการรวมเสียงข้างมาก ชิงอำนาจรัฐ แต่ยังกุมขมับกับการแก้โจทย์ความนิยมทางการเมืองทั้งของตัวแคนดิเดตนายกฯ คนใหม่ และพรรคเพื่อไทย