อธิบดีกรมการปกครอง ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าฯ ควบคุม กำกับดูแลพฤติกรรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน หวั่นซ้ำรอย กรณี“กำนันนก”
วันนี้ 12 ก.ย. 2566 นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งด่วนที่สุด ที่ มท. 0310.2 /ว 26209 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัดเรื่อง มาตรการควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ
ตามที่ กรมการปกครองแจ้งกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ในการประพฤติตน และการใช้อาวุธปืนในการปฏิบัติหน้าที่ และเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในการรักษาความสงบเรียบร้อยโดยมุ่งประสงค์ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ดี มีเกียรติ และศักดิ์ศรีความเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ
ยึดมั่นและยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง มีความซื่อสัตย์สุจริตและความรับผิดชอบ ต้องรักษาชื่อเสียงของตน และรักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯลฯ มิให้เสื่อมเสียเป็นแบบอย่างที่ดีของเจ้าหน้าที่รัฐ และบุคลากรภาครัฐที่ปฏิบัติราชการในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
แต่ปัจจุบันยังปรากฎข่าวทางสื่อมวลชนหรือสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติตนของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯลฯ ที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมไม่เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย นโยบายของรัฐบาล กระทำตนเป็นผู้มีอิทธิพล ดังเช่น กำนันตำบลตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ถูกจับกุมในคดีอาญาในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น อันเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และอยู่ในความสนใจของประชาชน
จากสาเหตุดังกล่าวจึงทำให้เสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ต่อสถาบันกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯภาพลักษณ์กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ รวมทั้งสร้างความไม่ไว้วางใจ จากประชาชน และประเทศชาติ นั้น
กรมการปกครองพิจารณาแล้วเห็นว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ในฐานะผู้ปกครองท้องที่ระดับตำบล หมู่บ้าน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการดูแลทุกข์สุขของราษฎรในท้องที่ ดังนั้น เพื่อให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯเกิดภาพลักษณ์ที่ดี เป็นที่พึ่งของประชาชน และเป็นแบบอย่างที่ดี จึงขอให้จังหวัดแจ้งอำเภอกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในการประพฤติตน และการใช้อาวุธปืนในการปฏิบัติหน้าที่ตามหนังสือกรมการปกครอง ด่วนที่สุด ที่ มท. 0310.2 /ว 12572 ลงวันที่ 24 พ.ค.2565 และหนังสือ ที่ มท 0310.2 /ว 8940 ลงวันที่ 8 เม.ย.2565 เรื่อง เน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในการรักษาความสงบเรียบร้อย และหากปรากฏว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านประพฤติปฏิบัติตนไม่ถูกต้องเหมาะสม ไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมายนโยบายของรัฐบาล หรือกระทำตนเป็นผู้มีอิทธิพลตามที่ปรากฎข่าว ให้นายอำเภอพิจารณาตามมาตรการทางปกครองและวินัย ดังนี้
1. ให้อำเภอแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯลฯ ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง นายอำเภอสามารถสั่งลงโทษวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ได้แก่ ภาคทัณฑ์ ตัดค่าตอบแทน และลดอันดับเงินเดือนไม่เกินหนึ่งอันดับ
2. หากกรณีดังกล่าวเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ให้นายอำเภอรายงานผู้ว่าราชการจังหวัด มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง หากผลการสอบสวนมีมูลความผิดจริงสามารถลงโทษ ปลดออก หรือไล่ออกจากตำแหน่งตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2457 มาตรา 61 ทวิ อนึ่ง เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาแล้วมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ แล้ว นายอำเภอสามารถใช้ดุลพินิจสั่งพักหน้าที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ เพื่อรอผล การสอบสวนทางวินัย
3. หากนายอำเภอพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ เป็นการบกพร่องในหน้าที่หรือประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง ให้นายอำเภอแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อสอบสวน ให้ได้ความว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มีพฤติกรรมบกพร่องในหน้าที่หรือประพฤติตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง แล้วรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อมีคำสั่งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ พ้นจากตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2457 มาตรา 14 (7 )
4. หากพบว่ากรณียังไม่มีมูลให้ดำเนินการทางวินัย ให้นายอำเภอว่ากล่าวตักเตือนให้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เกิดผลดีต่อราชการ
5. กรณีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ผู้ใดประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เอาใจใส่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ให้จังหวัดดำเนินการยกย่องชมเชยให้ปรากฏเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่น แล้วรายงานให้กรมการปกครองทราบ