เปิด 4 ข้อเหตุผล ‘ปดิพัทธ์ สันติภาดา’ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 โร่ชี้แจงปมบินสิงคโปร์
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ชี้แจงปมตนและคณะเดินทางไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ โดยชี้แจงจากการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับราคาที่พัก และ ตั๋วเครื่องบินที่มีราคาสูงเกินจริง โดยเดินทางในวันที่ 21 -24 กันยายน 2566 ด้วยเหตุผล 4 ข้อ
- งบประมาณดังกล่าวเป็นงบประมาณตามสิทธิที่อยู่ในระเบียบของรองประธานฯ คนที่ 1 ข้อเท็จจริงเป็นการตั้งไว้ตามสิทธิที่อยู่ในระเบียบไว้ก่อนและค่าใช้จ่ายจริงจะสามารถเปิดเผยได้เลยในวันนี้
- คณะกรรมการเดินทางประกอบไปด้วย 3 ส่วน ส่วนที่ 1 คือกรรมการ ซึ่งประกอบไปด้วยตน สส.ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.วรพงษ์ วิริยะโรจน์ ซึ่งเป็นงานด้านเทคนิคที่อยากให้ไปดูงานด้านเทคโนโลยี องค์ประกอบที่ 2 คือ ถ้ากำหนดแผนในการดูงานได้แล้วตอนแรกตั้งใจจะเชิญประธานกรรมธิการกิจการสภาไปแต่ด้วยปัจจุบันยังไม่มีบุคคลที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าง ก็จะให้เลือกสรรเชิญคนไป เลยใช้วิธีการแบ่งในกรรมาธิการตามสัดส่วนมีพรรคก้าวไกล 3 ท่าน และพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย อย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่แปรปลี่ยน ทำให้มีสมาชิกที่ไม่มีความพร้อมบ้าง คงเหลือจากพรรคเพื่อไทย 2 คน องค์ประกอบที่ 3 เป็นเจ้าหน้าที่สภาฯ 4 ท่าน
- ตั๋วเครื่องบินตั้งไว้ตามสิทธิ 52,000 บาท จองจริงอยู่ที่ 28,000 บาท โรงแรมตั้งไว้ตามสิทธิ 12500 จองจริงอยู่ที่ 9,000 บาท ในส่วนงบรับรองยังมีการหักทอนต่างๆ อย่างเช่นเบี้ยเลี้ยงของคณะที่ไป มื้อกลางวันมื้อหนึ่งหากสถานทูตเลี้ยงรับรองก็จะตัดทอนจ่ายเบี้ยเลี้ยงไม่เต็ม หักลบกลบหนี้ภายหลังการเดินทาง และยินดีที่จะแสดงใบเสร็จหลังจากการดูงาน
- เหตุใดจึงไปช่วงเวลาเสาร์อาทิตย์ ด้วยภารกิจจันทร์ศุกร์ ช่วงเวลาดังกล่าวจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการดูงานและไม่กระทบการทำงานในสภาฯ
ทั้งนี้ การดูงานดังกล่าวหลักๆ จะเป็นการไปงานด้านพิพิธภัณฑ์ของสิงคโปร์ ต้องการพิพิธภัณฑ์ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวของประเทศและสามารถเป็น Interactive ได้ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรเองปัจจุบันเองก็มีในส่วนของที่จะทำเป็นพิพิธภัณฑ์และจะได้นำมาปรับใช้ต่อไป
เรื่องที่สองคือ การไปดูงานด้านจัดการฝุ่นซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎหมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตอนนี้เราพบว่าจะส่งเสริมเฉพาะเรื่องพรบ อากาศสะอาดแต่ยังมีกฎหมายยานยนต์ โรงงาน เกี่ยวข้องกับสิทธิของประชาชน แล้วส่งผลลัพธ์ไปที่ 3 หน่วยงาน คือรัฐบาล พรรคการเมือง ภาคประชาสังคมซึ่งตั้งใจว่าจีสภาสัญจรไปพบกับประชาชนที่สภาลมหายใจ ที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเดือนตุลาคม ยืนยันทุกอย่างกำหนดจุดประสงค์ รายละเอียด และผลลัพธ์ของการดูงานไว้แล้ว
อย่างไรก็ตามตนเน้นย้ำว่า การทำงานของตนสามารถตรวจสอบได้เหมือนเช่นหน่วยงานอื่นๆ และพร้อมจะเป็น Open parliament