เว็บไซต์ Newsxtra สรุปข่าวการเมืองในรอบวัน ประจำวันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2566 ดังนี้
‘เศรษฐา’ สละเงินเดือนมอบให้มูลนิธิ:
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ขอส่งต่อเงินเดือน และเบี้ยประชุมของทุกเดือนที่ได้รับจากการดำรงตำแหน่งนายกฯ และรมว.คลังตลอดการดำรงตำแหน่ง ให้แก่มูลนิธิต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้เปราะบาง สำหรับการคัดเลือกองค์กรที่จะได้รับเงินนั้น จะมีทีมงานเป็นผู้กำหนดเกณฑ์ โดยครั้งแรกจะบริจาคให้แก่มูลนิธิเด็ก (FOUNDATION FOR CHILDREN)
คุก ‘นิพนธ์’ 9 ปี ละเว้นไม่จ่ายค่ารถซ่อมบำรุงทาง:
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาจำคุก 9 ปี และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งจำนวน 5 ปีแก่นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา กรณีถูกกล่าวหาว่า ละเว้นไม่อนุมัติจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ จำนวน 2 คัน เป็นเงิน จำนวน 50,850,000 บาท แก่บริษัทพลวิศว์ เทค พลัส จำกัด โดย นายนิพนธ์ ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นอุทธรณ์ ตีราคาประกัน 2 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร
‘วิโรจน์’ แฉสวมสิทธิสมาชิกสหกรณ์ตำรวจ:
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วย นายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก ส.ส.ลำพูน พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ร่วมกันแถลงข่าวถึงปัญหาของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ จ.ลำพูน นายตำรวจชั้นผู้น้อย ชั้นประทวน กว่า 423 ราย ได้รับความเสียหายรวมกันกว่า 220 ล้านบาทหรือมากกว่านั้น โดยทาง ส.ส.ลำพูน ของพรรคก้าวไกลได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายตำรวจสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งได้กู้หนี้ 4 แสนบาท แต่มูลค่าหนี้กลับเพิ่มขึ้นเป็นล้านบาท
‘เศรษฐา’ หารือกัมพูชา ยกระดับหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์:
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือทวิภาคีกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศในทิศทางเดียวกัน โดยต่างย้ำมิตรภาพอันใกล้ชิดระหว่างสองประเทศ และเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่จะเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีทั้งสองประกาศยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และนายกรัฐมนตรีไทยขอเชิญนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเยือนไทยด้วย
‘โรม’ โวย นายกฯไม่มาตอบกระทู้:
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการตั้งกระทู้ถามสดว่า เมื่อถึงเวลาตั้งกระทู้นายกฯ ไม่สามารถตอบกระทู้ถามสดดังกล่าวได้ และไม่ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีมาชี้แจงแทน และไม่แจ้งว่าจะมาตอบได้เมื่อใด ถือว่าผิดข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อ 151 ดังนั้นได้เรียกร้องให้นายกฯ ดำเนินการให้ถูกต้องตามข้อบังคับ พร้อมกับเสนอให้พิจารณาว่าในการประชุมสภาฯ ช่วงกระทู้ถามสดในสัปดาห์หน้า หากกระทู้ของนายรังสิมันต์ นายกฯ สามารถมาตอบได้ ต้องมีกระทู้ถามของพรรคฝ่ายค้าน เพิ่มอีก 1 กระทู้ จากเดิมที่ได้สิทธิ 2 กระทู้ โดยเป็นของนายรังสิมันต์ เพื่อไม่ให้เสียเวลาตรวจสอบรัฐบาล
‘หมอชัย’ เดือด ซัดก้าวไกลผ่านไลน์ทำเนียบ:
น.สพ.ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีที่ไม่สามารถตอบกระทู้ถามสดของสภาฯ ผ่านกลุ่มไลน์ทำเนียบรัฐบาล ว่า “รู้ทั้งรู้ว่านายกรัฐมนตรีติดภารกิจเยือนกัมพูชา แต่ก็ยังหาเรื่องตั้งกระทู้ถามสดในสภา … ทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร ประเทศชาติและประชาชนได้ประโยชน์อะไรครับ”
‘โรม’ ตอกกลับชัย รู้ทั้งรู้แต่ไม่ส่งคนมาตอบ:
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึง กรณีการตั้งคำถามของโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า รู้ทั้งรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในองค์กรตำรวจ รู้ทั้งรู้ว่าองค์กรตำรวจขัดแย้งกันขนาดไหน รู้ทั้งรู้ว่ามีเครือข่ายตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทามากมายเพียงใด ผมเข้าใจว่าคุณเศรษฐาอาจจะไม่เข้าใจความสำคัญของตำรวจ ท่านนายกจะเดินทางไปต่างประเทศ ก็ไปได้ถ้าคิดว่าสำคัญและเร่งด่วนมากกว่าก็ไปได้ แต่ก็ช่วยทำให้ถูกต้องตามข้อบังคับการประชุมสภา ช่วยส่ง รมต. คนอื่นมาตอบแทนก็ได้ หรือช่วยกรุณาบอกก็ได้ว่าจะมาชี้แจงต่อสภาในเรื่องตำรวจเมื่อไหร่ ประชาชนเขาจะได้รู้ว่านายกจะแก้ปัญหาตำรวจยังไง ตั้ง ผบ.ตร. ใช้เกณฑ์อะไร จะได้รอว่าคำตอบเหล่านี้จะมาถึงเมื่อไหร่
‘ชัยชนะ’ จ่อสางปัญหาสตช.:
นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่าที่ประธานคณะกรรมมาธิการการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง เสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า ทาง กมธ.จะดำเนินการรับฟังปัญหาของ สตช.ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณในการทำงาน และเสียงสะท้อนจากตำรวจชั้นผู้น้อยเกี่ยวกับเรื่อง เบี้ยเลี้ยง บ้านพัก และคดีสำคัญต่างๆ ที่เกิดขึัน โดยการทำงานจะมีที่ปรึกษาทั้งอดีตนายตำรวจ และตำรวจปัจจุบัน รวมทั้งภาคเอกชน ธุรกิจ นักวิชาการ นักกฎหมาย ในการร่วมกันแก้ไขปัญหา
สุทิน แจงยิบ 3 ปมกองทัพ:
นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ตอบกระทู้ถามสดต่อที่ประชุมสภาฯ ต่อประเด็นกรณีน้ำมันของหน่วยงานทหารที่จังหวัดสระบุรี หาย 2แสนลิตร ว่า กองทัพได้ตรวจสอบ และพบว่ามีเบาะแสรวมถึงความพิรุธ เบื้องต้น พบว่าน้ำมันดีเซลหาย 2.5แสนลิตร ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่ามีความล่าช้านั้น เป็นกระบวนการตรวจสอบที่ต้องทำให้รอบคอบก่อนจะลงโทษผู้กระทำผิด ส่วนกรณีเรือดำน้ำสั่งซื้อจากจีน แต่เครื่องยนต์ไม่ตรงสเปค ขณะนี้อยู่ในกระบวนการของกองทัพเรือที่ต้องพิจารณาและมีข้อสรุปต่อไป ขณะที่ประเด็นการกู้เรือหลวงสุโขทัยล่ม ได้สั่งตรวจสอบแล้วหากมีอะไรนอกเหนือระเบียบราชกากร หรือเอื้อประโยชน์ให้กับใครยืนยันจะจัดการแน่นอน