คณะกรรมการสมานฉันท์ นัดประชุม ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ เพื่อหารือถึงข้อเสนอต่อการจัดตั้ง “คณะกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติ” ให้เป็นองค์กรที่ดูแลงานด้านการสร้างสมานฉันท์อย่างถาวร ไม่ใช่เป็นกรรมการเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นเป็นครั้งคราว ทั้งนี้ การจัดตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติ จะเป็นการปัดฝุ่นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการเสริมสร้างความสมานฉันท์แห่งชาติ พ.ศ.2550 ซึ่งเกิดขึ้นสมัยที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเนื้อหาคือการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติ (คสส.) ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักปลัดกระทรวงยุติธรรม และมีช่องทางทำงานคือการไกล่เกลี่ยปัญหา
นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ โฆษกคณะกรรมการสมานฉันท์ เปิดเผยว่า การสร้างความสมานฉันท์ ภายใต้องค์กรถาวรนั้น ได้เสนอให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) และกำหนดรายละเอียด ซึ่งการยกร่างกฎหมาย กรรมการสมานฉันท์ยังไม่ได้พูดถึงรายละเอียด โดยมองว่าควรส่งต่อไปยังคณะกรรมการที่ทำงานระยะยาว โดยสถาบันพระปกเกล้า ทั้งนี้การยกร่างกฎหมายอาจจะไม่ทันในสมัยรัฐสภาปัจจุบัน แต่เมื่อสังคมเห็นประเด็นอาจจะเกิดการสานต่อได้ในอนาคต
เขา กล่าวว่า กรรมการสมานฉันท์แห่งชาติ จะเป็นหน่วยงานที่ทำงานจริงจังให้สังคมเกิดการเรียนรู้และหันหน้าพูดคุยกัน ที่สำคัญหากมีกลไกดังกล่าวเกิดขึ้น ปัญหาการชุมนุมที่มาจากความเห็นต่างและไม่ยอมรับฟังกัน จะได้รับการแก้ไข ผ่านการรับฟังซึ่งกันและกัน แทนการจับกุมดำเนินคดี ทั้งนี้การสร้างความสมานฉันท์ไม่ใช่การชี้ว่าใครผิดหรือถูก
สำหรับการทำงานของคณะกรรมการสมานฉันท์ เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2564 ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาผลดำเนินงานของอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นและสื่อสารสาธารณะ และ อนุกรรมการสมานฉันท์เชิงประเด็น รวมถึงพิจารณารายงานของคณะกรรมการ
โดยมีแนวทางการส่งเสริมความสมานฉันท์เพื่อยุติการชุมนุมอย่างสันติวิธี 2 แนวทาง ได้แก่ 1. การจัดเวทีให้มีการพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกันระหว่างรัฐกับคู่ขัดแย้งทั้งทางตรงและทางอ้อม และ 2. การเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องดำเนินคดี พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางการดำเนินการไกล่เกลี่ยกรณีที่เป็นคดีความ
