ทีมนายอำเภอผู้พิชิตราชันชุดขาว

เชอร์รีฟ ติราสโพล (FC Sheriff Tiraspol) หรือทีมเชอร์รีฟที่มีตราสโมสรคล้ายกับตราสัญลักษณ์ของนายอำเภอ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วสโมสรจากประเทศมอลโดวาทีมนี้ มีฉายาว่า The Yellow-Blacks/The Wasps ถ้าให้แปลเป็นไทยแบบง่ายๆ ก็คงเป็นต่อพิฆาต เหลืองดำ และทีมที่อยู่ในยูฟ่า แรงค์กิ้ง (UEFA Ranking)อันดับที่ 58 นี้ พึ่งก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1997 หรือประมาณ 24 ปี ที่ผ่านมานี่เอง

โดยในศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (UEFA Champions League: UCL) ฤดูกาล 2021/2022 เชอร์รีฟ เรียกได้ว่า ดวงแตก เมื่อถูกจับฉลากให้ไปอยู่กับกลุ่ม D ที่มีโคตรทีมอย่างราชันชุดขาว รีล มาดริด และทีมงูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน รวมถึงชัคตาร์ โดเนตส์ ทีมดังจากประเทศยูเครน ทั้งสามทีมที่กล่าวมาล้วนมีประสบการณ์โชกโชนในเวที UCL แห่งนี้ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เชอร์รีฟ จะถูกมองเป็นทีมไม้ประดับ คงกลายเป็นหมูให้ทีมใหญ่เคี้ยวเล่น กอบโกยแต้มได้อย่างสบาย

แต่ลูกกลม ๆ ในโลกฟุตบอล อะไรก็เกิดขึ้นได้! เมื่อเชอร์รีฟ ประเดิมฟาดแข้งนัดแรกในศึก UCL ด้วยการเปิดรังเหย้าของตัวเองคว้าชัยชนะต่อชัคตาร์ โดเนตส์ ไป 2 ประตูต่อ 0 เก็บสามแต้มแรกได้สำเร็จ

ไม่จบเพียงเท่านั้น เมื่อวันพุธที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา เชอร์รีฟ ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะทำได้ นั่นคือ การยัดเยียดความปราชัยให้กับราชันชุดขาว รีล มาดริด พ่ายแพ้คาบ้านของตัวเอง ไป 1 ประตูต่อ 2 โดยได้ประตูจาก จาเซอร์เบค ยาคซิบอเรฟ ในนาทีที่ 25 และได้ประตูชัยจากลูกยิงฮาฟล์วอลเล่ย์สุดสวย ของกองกลางชาวลักแซมเบิร์กอย่าง เซบาสเตียน ทิลล์ ในนาทีที่ 89

เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อบีบีซีอังกฤษว่า “ผมได้ดูคลิปวิดีโอการยิงประตูลูกนั้นไปกว่า 100 ครั้ง ประตูลูกนี้มันมหัศจรรย์มาก และเป็นประตูที่สวยงาม แถมยังเป็นประตูที่สำคัญมากในชีวิตการค้าแข้งของผมเลย”

ทิลล์ ยังกล่าวถึงทีมของเขาต่อไปว่า “พวกเราได้วิเคราะห์ทีมรีล มาดริดแล้ว และคิดว่าเราสามารถเอาชนะพวกเขาได้ ทีมโค้ชบอกกับพวกเราว่า ไม่ต้องกลัวที่จะเล่นฟุตบอล และพวกเราจำเป็นจะต้องสนุกไปกับความรู้สึกนี้ที่ได้ลงเล่นต่อสู้กับทีมใหญ่ในสนามที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในความฝันของพวกเราเลย ถึงแม้พวกเราจะเป็นเพียงทีมที่เล็กมากๆ ในศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่พวกเราก็ไม่มีอะไรจะเสีย พวกเราแค่เอาชนะในเกมให้ได้ และแน่นอนพวกเราจึงลงเล่นโดยไม่มีความกลัวแต่อย่างใด ถ้าพวกเราแพ้ 1-0 หรือ 2-0 ในสนามเบอร์นาเบว (สนามเหย้าของรีล มาดริด) ทุกๆ คนก็คงจะพูดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาแหละ แต่ถ้าเราสามารถเอาชนะได้ มันก็คือการสร้างประวัติศาสตร์ และสำหรับพวกเรามันจึงง่ายมากที่จะลงไปเล่นฟุตบอล เพราะพวกเราคือทีมเล็ก”

และเป็นจริงอย่างที่ทิลล์ได้พูดไว้ นั่นคือ พวกเขาสร้างประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ได้สำเร็จ โดยดูจากผลงานในสนามมันแทบไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะเอาชนะรีล มาดริดได้ เพราะรีล มาดริด เหนือกว่าทั้งชื่อชั้นของผู้เล่น รวมถึงสถิติการครอบครองบอลในสนามโดยรวมกว่า 76 เปอร์เซ็นต์ โอกาสการเข้าทำประตูมากถึง 31 ครั้ง ตรงกรอบ 11 ครั้ง มีโอกาสเตะมุม 13 ครั้ง เปลี่ยนเป็นประตูได้ 1 ประตู จากลูกจุดโทษของคาริม เบนเซม่า ตัดภาพมาดูที่ฝั่งเชอร์รีฟ ที่สร้างโอกาสการเข้าทำประตูได้เพียง 4 ครั้ง เข้ากรอบ 3 ครั้ง ไม่มีโอกาสได้เตะมุมแม้แต่ครั้งเดียว แต่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ถึง 2 ประตู เรียกได้ว่า จังหวะจบสกอร์คมกริบเหลือเกิน

ด้วยทัศนคติในการเล่นฟุตบอลแบบไม่มีความกลัวบวกกับความถ่อมตนว่าพวกเขาเป็นทีมเล็ก และไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว การลงไปเล่นฟุตบอลโดยไม่มีความกดดันจึงเป็นจุดแข็งที่สำคัญของเชอร์รีฟ รวมถึงการวางแผนการเล่น แทคติกต่างๆ ของทีมโค้ช ที่ทำให้พวกเขาสามารถเอาชนะ รีล มาดริด ได้

ปัจจุบัน เชอร์รีฟนำเป็นจ่าฝูงในกลุ่ม D เก็บไปได้ 6 คะแนนเต็ม และน่าลุ้นเอาใจเชียร์ว่าพวกเขาจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์แบบต่อเนื่องด้วยการผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จหรือไม่ ถ้าพวกเขายังคงรักษาความสม่ำเสมอในการเล่นฟุตบอล พร้อมทัศนคติที่แข็งแกร่ง หนทางครั้งนี้ยังเปิดกว้าง ทีมเล็กๆ จากมอลโดวา อาจฝันได้ไกลมากกว่านี้อย่างแน่นอน

ผู้เขียน

TOPPING

The POP LOVER PODCAST

แหล่งอ้างอิง

1. https://en.wikipedia.org/wiki/FC_Sheriff_Tiraspol…

2. https://www.bbc.com/sport/football/58754550

3. https://www.fourfourtwo.com/…/who-are-fc-sheriff…

4. https://www.uefa.com/memberassociat…/teams/69606–sheriff/