น้ำมันกระโดดตาม OPEC+ คาดลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาด
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสู่ระดับ 82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากสัญญาณบ่งชี้ว่ากลุ่มพันธมิตร OPEC+ กำลังพิจารณาลดกำลังการผลิตลงมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันเพื่อฟื้นราคาที่ดิ่งลงเมื่อพบกันในสัปดาห์วันพุธที่ 5 ตุลาคม นี้ นำโดย พันธมิตร 23 ชาติ โดยมีซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย เป็นหัวหอก
การลดกำลังการผลิตดังกล่าวจะถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ แม้ว่าผู้แทน OPEC+ จะกล่าวว่าจะยังไม่มีการตัดสินใจเกี่ยวกับขนาดของการลดกำลังการผลิต จนกว่ารัฐมนตรีจะรวมตัวกันที่กรุงเวียนนาในวันพุธนี้
Ed Moya นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Oanda Group กล่าวว่า “ราคาน้ำมันที่ร่วงลงน่าจะจบลงแล้ว “ผู้ค้าพลังงานมองในแง่ร้ายในช่วงฤดูร้อนเนื่องจากความกลัวการชะลอตัวทั่วโลก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความเสี่ยงสำหรับน้ำมันจะกลับหัวกลับหาง”
น้ำมันลดลงหนึ่ง ใน สี่ในช่วงสามเดือนจนถึงเดือนกันยายน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวทำให้อุปสงค์ลดลง ธนาคารต่างๆ ซึ่งรวมถึง UBS Group AG และ JPMorgan Chase & Co. กล่าวว่าองค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตรอาจจำเป็นต้องลดกำลังการผลิตอย่างน้อย 500,000 บาร์เรลต่อวันเพื่อให้ราคามีเสถียรภาพ
ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Price Futures Group ระบุว่า การลดปริมาณน้ำมันมากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน “จะเพียงพอที่จะดึงราคาให้เหมาะสม”
ประกอบกับคำกล่าวของ ซูฟโร ซาร์การ์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจาก DBS Bank Ltd. ในสิงคโปร์ ที่พูดถึงการเตรียมการปรับลดกำลังการผลิตครั้งนี้ว่า “เหลือเวลาอีกไม่นานก่อนที่น้ำมันจะกลับสู่ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุปทานที่คาดว่าจะตึงตัวในช่วงปลายปี”
การลดกำลังการผลิตจำนวนมากอาจทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากสหรัฐฯและประเทศผู้บริโภครายใหญ่อื่น ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยของอัตราเงินเฟ้อทุกประเทศทั่วโลก และเป็นปัญหาให้ธนาคารกลางต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจัง
การประชุม OPEC+ ในสัปดาห์นี้ถือเป็นการประชุมแบบตัวต่อตัว ครั้งแรก ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 และคาดว่าการตัดสินใจเรื่องอุปทานในครั้งนี้จะเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน