ปลดล็อกกัญชา แค่ไหน อย่างไร
จากคำสบประมาทสู่ฝันที่เป็นจริงของนโยบายสายเขียว พรรคภูมิใจไทย กับวลีเด็ดของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ว่า “สายเหนียวต้องหนูกันภัย สายอนามัย ต้องหนูกัญชา”
ปัจจุบันหลังจากการปลดล็อคกัญชาตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ.2565 ซึ่งถูกประกาศลงราชกิจจานุเบกษาตั้งแต่ 9 ก.พ. 2565 โดย สธ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเวลา 120 วันในการเตรียมการก่อนจะ “ปลดล็อกกัญชา” ให้ถูกกฎหมายตั้งแต่รากถึงดอก ในวันที่ 9 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา
ผลของประกาศดังกล่าวทำให้กัญชาจะไม่มีสถานะเป็นพืชเสพติดอีกต่อไป ความผิดฐานผลิต นำเข้า หรือส่งออก มีไว้ในครอบครอง จำหน่าย มีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ หรือเสพพืชกัญชา ตามพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ต้องยกเลิก รวมทั้งการใช้กัญชา การสูบก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมายยาเสพติด เช่นเดียวกัน
สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกกัญชา กัญชง สามารถปลูกได้โดยไม่ต้องขออนุญาต และไม่จำกัดจำนวนเพียงแต่ขอความร่วมมือให้ประชาชนที่ต้องการปลูกกัญชา กัญชง แจ้งข้อมูลผ่านระบบแอปพลิเคชัน “ปลูกกัญ” ที่ อย.จัดทำขึ้น
อย่างไรก็ตามประกาศฉบับนี้ยังยกเว้นให้สารสกัดที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol – THC) เกิน 0.2 % ยังเป็นยาเสพติด ดังนั้นการมีใช้ จำหน่าย สารสกัดจากกัญชาที่มีปริมาณสาร THC เกินกว่า 0.2% โดยไม่มีใบอนุญาต ไม่มีใบสั่งแพทย์ ไม่ผ่านการรับรองจากอย. หรือสารสกัดจากกัญชานั้นมีแหล่งที่มาจากนอกราชอาณาจักร ยังถือว่ามีความผิดตามกฎหมายยาเสพติด
ประกาศฉบับดังกล่าวทำให้เกิดภาวะสุญญากาศในระหว่างการคุ้มครองดูแลผู้บริโภค ในช่วงที่ยังไม่มีพ.ร.บ. มาบังคับใช้โดยตรงเนื่องจากต้องรอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับ..) พ.ศ. … บังคับใช้เสียก่อน ซึ่งร่างดังกล่าวเพิ่งจะรับหลักการวาระแรกไปเมื่อ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ สธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องออกประกาศตามมาทีหลังเพื่ออุดช่องโหว่บางอย่างที่เกิดขึ้นจากประกาศดังกล่าว
จนอาจกล่าวได้ว่า “ในช่วงระยะเวลาสุญญากาศ 9 วันกว่าจะออกประกาศมาอุดช่องโหว่ ประเทศไทยอาจเป็นประเทศที่กัญชาเสรีที่สุดแล้วประเทศหนึ่งในโลกก็ว่าได้”
ไล่เรียงประกาศที่ออกมาก่อนหน้าในเดือนมีนาคม 1 ฉบับ และภายหลังปลดล็อกอีก 1 ฉบับ ซึ่งทั้งสองฉบับไม่มีบทกำหนดโทษใดๆ ยังคงทำได้เพียงคำเตือนจากสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
ฉบับแรก เป็นประกาศจากกรมอนามัย เรื่อง การนำใบกัญชามาใช้ในการทำ ประกอบหรือปรุงอาหาร ในสถานประกอบกิจการอาหาร พ.ศ. 2565 อันมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้สถานประกอบการกิจการอาหาร ต้องควบคุม กำกับ และจัดให้มีการสื่อสารข้อมูลด้านสุขภาพและต้องตระหนักด้านความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการจำหน่ายอาหารที่มีการใช้ใบกัญชาเป็นส่วนประกอบของอาหารได้
เช่น จัดทำข้อความแสดงข้อมูลสำหรับสถานประกอบการที่ใช้กัญชา แสดงรายการอาหารที่มีการใช้กัญชา แสดงข้อมูลปริมาณการใช้ใบกัญชา แสดงข้อแนะนำเพื่อความปลอดภัยในการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีใบกัญชาเป็นส่วนประกอบ และแสดงคำเตือนรายการอาหารที่มีการใช้ใบกัญชาให้แก่ผู้บริโภคที่มีความเสี่ยง หากรับประทานอาหารที่ใช้ใบกัญชาทราบ
ฉบับที่สอง ประกาศใช้ในวัน “ปลดล็อกกัญชา” 9 มิ.ย. มีสาระเพิ่มเติมเพียงแค่ “กำหนดให้สถานประกอบกิจการอาหาร มีการจัดเก็บใบกัญชาที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ จัดเก็บเป็นสัดส่วน อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ไม่ทำให้เกิดเชื้อรา หรือเน่าเสีย”
นอกจากนี้ในวันที่ 15 มิถุนายน เมื่อกัญชา กัญชง ปลูกได้อย่างเสรีในครัวเรือน และไม่มีข้อห้ามเพื่อการสันทนาการในครัวเรือน ทำให้มีความจำเป็นต้องออกประกาศอีกฉบับเพื่อป้องกันนักสูบมาสูบกัญชาตามพื้นที่สาธารณะใน ประกาศเรื่อง กำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ.2565 โดยมีนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการลงนามแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
ซึ่งสำหรับผู้ก่อเหตุรำคาญ หากได้รับแจ้งจากเจ้าพนักงานให้ปรับปรุงแก้ไข แต่ไม่ยอมดำเนินการ จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ล่าสุดในวันที่ 17 มิถุนายน มีการออกประกาศเพื่อออกมาบังคับใช้อีกฉบับหนึ่งเรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 4, 44, 45(3), 45(4) แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 กำหนดให้กัญชา หรือสารสกัดกัญชา เป็นสมุนไพรควบคุม
โดยมีสาระสำคัญคือ การอนุญาตให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปสามารถครอบครอง ใช้ประโยชน์ ดูแล เก็บรักษา ขนย้าย จำหน่ายสมุนไพรควบคุม (กัญชา) ได้ แต่ห้ามใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะโดยการสูบและห้ามจำหน่ายกัญชาให้แก่ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ หรือสตรีที่ให้นมบุตร
จะเห็นได้ว่ากระบวนการในการปลดล็อกกัญชาค่อนข้างเป็นเรื่องที่ควรระมัดระวังพอควร หลังเกิดเหตุการณ์ต่อหลายกรณีต่อการใช้กัญชา บ้างก็แพ้ หรือบางรายมีการเสียชีวิต หลังปลดล็อกกัญชา เราจึงได้เห็นกฎหมาย ออกมาในฐานะประกาศกระทรวงออกมาอย่างต่อเนื่องภายในไม่กี่สัปดาห์เพื่ออุดช่องโหว่ที่เกิดขึ้น จากนี้ไปการใช้กัญชาเพื่อเชิงพาณิชย์หรือในทางการแพทย์อื่นใดในรายละเอียดคงต้องรอ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่กำลังพิจารณาอยู่ในสภาต่อไป
แต่อย่างไรตอนนี้ สายเขียวอย่างภูมิใจไทย คงยิ้มปริ่มเพราะนโยบายของตนที่สัญญาไว้ทำได้จริง ตามสโลแกน “พูดแล้วทำ” ที่อ้างกันในระยะนี้ หวังว่าเลือกตั้งครั้งหน้า เราคงจะได้เห็นประโยชน์จากกัญชาที่มีต่อพรรคภูมิใจไทยในอนาคตอันใกล้ต่อไป
ที่มา :
– The matter (2022), “สูบได้ ขายไม่ผิด ถูกกฎหมายตั้งแต่รากถึงดอก ประชาชนทำอะไรได้บ้างหลังปลดล็อกกัญชา”, https://thematter.co/quick-bite/9june-ganja-d-day/177506
– บีบีซีไทย (2022), “กัญชา : สธ. ออกประกาศให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม หลังเปิด “กัญชาเสรี” ครบสัปดาห์”, https://www.bbc.com/thai/thailand-61825227
– บีบีซีไทย (2022), “กัญชา กัญชง : เสรี ปลดล็อก ข้อกังวล กับ คำชี้แจงจากรัฐบาล”, https://www.bbc.com/thai/61741342