1. วันที่ 4 พ.ค. Tony Woodsome หรือ ทักษิณ ชินวัตร บอกใน clubhouse ว่าวัคซีนไฟเซอร์ ของสหรัฐฯ ที่มีสิทธิภาพป้องกันโควิด-19 สูงถึง 95% ได้เข้ามาในประเทศไทยแล้วบางส่วน “ถ้าเข้าไปดูเว็บไซต์ ประเทศไทยมีเอาเข้ามาแล้ว ไม่รู้เท่าไหร่ แต่ว่า เอาเข้าแล้ว ไม่มาก คงใช้กันไม่กี่คน วันนี้ใครอยากรู้ข้อมูลไม่เป็นความลับแล้ว”
2. ต่อมาหลายสำนักข่าวนำเสนอรายงานของนิวยอร์กไทม์ส (Nytimes) ที่เกาะติดการฉีดวัคซีนทั่วโลก พบว่า ประเทศไทย เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการอนุมัติใช้ วัคซีนไฟเซอร์แบบฉุกเฉิน
3. วันที่ 5 พ.ค.นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย. แถลงโต้ Tony Woodsome ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง วัคซีนไฟเซอร์ยังไม่มีการนำเข้ามาในไทย ตรวจสอบทุกทางแล้วไม่พบมีการนำเข้า พร้อมเตือนว่า หากนำเข้าวัคซีนโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน จะถือว่าผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาทหรือทั้งจำ ทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ยา
4. บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ออกเอกสารชี้แจง รับรองว่าไม่มีนโยบายจัดจำหน่ายวัคซีนโควิด-19 ผ่านตัวแทนหรือตัวกลางใดๆ จนถึงปัจจุบันไม่เคยมีการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ผ่านสำนักงานในประเทศไทย
5. เว็บไซต์นิวยอร์กไทม์ส (Nytimes) ลบประเทศไทยออกจากการปักหมุด ที่ระบุว่า วัคซีนของไฟเซอร์ได้มีการนำเข้ามาในประเทศไทยแล้ว
6. เรื่องน่าจะจบ แต่วันที่ 6 พ.ค. โจ้ ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ใช้ทวิตเตอร์โชว์เอกสาร จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ ที่บอกถึงการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ในหน่วยแพทย์ สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย
7. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แก้เกี้ยวว่า การส่งวัคซีนของแต่ละประเทศอยู่ภายใต้เอกสิทธิ์ของการทูต โดยกระทรวงสาธารณสุขจะไม่ได้รับข้อมูลในส่วนนี้ เนื่องจากคณะทูตในสถานทูตแต่ละประเทศต่างก็มีเอกสิทธิ์ตามหลักสากล ถือเป็นเอกสิทธิ์ของสถานทูต ทางสาธารณสุจึงไม่อาจก้าวล่วงได้
8. ย้อนไปข้อ 3 อ้าวเฮ้ย ไฉน เลขา อย. บอกว่า หากมีการนำเข้าวัคซีนโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน จะถือว่าผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาทหรือทั้งจำ ทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ยา
9. สรุปคือ มีวัคซีนไฟเซอร์ เข้ามาในประเทศไทยจริง แต่ไม่ได้ผ่านรัฐบาล และไม่เกี่ยวกับตัวแทนไฟเซอร์ ประเทศไทย แต่เป็นไปส่งตรงให้เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ
10. แต่ วันที่ 7 พ.ค. สนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษาประธาน กมธ.กฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ร้อง บก.ปอท. ตรวจสอบการพูดคุยคลับเฮ้าส์ของโทนี่และคณะ ว่ากระทำผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ร่วมกันเอาความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
สรุป โทนี่มั่ว หรือใครมึน
แหล่งข้อมูล : มติชน, ประชาชาติธุรกิจ, ผู้จัดการ, กรุงเทพธุรกิจ, Voice, BBC