ชัชชาติ ลั่นนโยบาย “ผู้ว่าฯเที่ยงคืน” เพิ่มศักยภาพธุรกิจกลางคืน ดูแลความปลอดภัยคน กทม. ยามค่ำ
วันที่ 8 เม.ย. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 เดินหน้าเสียงเขตบางกอกน้อยตั้งแต่ช่วงเช้า เริ่มต้นเส้นทางที่ตลาดศาลาน้ำร้อน ตลาดบางกอกน้อย ตลาดพรานนก และตลาดวังหลัง ชัชชาติทักทายผู้ค้าและประชาชนที่เดินทางมาจ่ายตลาดอย่างใกล้ชิด นายชัชชาติ เบอร์ 8 ถือวันดี 8 เมษายน สวมเสื้อเชิ้ตตัวใหม่ปักลาย “ชัช8าติ” พร้อมเลข 8 ตัวใหญ่ที่หน้าอกข้างซ้ายและแขนเสื้อขวา พร้อมถ่ายภาพกับป้ายหาเสียงที่ติดตั้งบริเวณข้างทาง ระหว่างทักทายประชาชนบนถนนอิสรภาพอีกด้วย
นายชัชชาติ กล่าวว่า เขตบางกอกน้อยมีตลาดหลายแห่งเปิดให้บริการตั้งแต่ก่อนเช้ามืด เช่น ตลาดศาลาน้ำร้อนเปิดตั้งแต่เที่ยงคืน เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีผู้ซื้อผู้ขายจำนวนมาก ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมทางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ที่เกิดขึ้นในยามค่ำคืน เช่นเดียวกับสตรีตฟู้ดและธุรกิจบันเทิง ดังนั้น ผู้ว่าฯ กทม. ต้องมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ชีวิตช่วงกลางคืน จึงประกาศนโยบาย “ผู้ว่าฯเที่ยงคืน” เพื่อให้ผู้คนใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย พร้อมเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน
นโยบาย ผู้ว่าฯเที่ยงคืน ประกอบด้วยมิติการพัฒนาหลายด้านในย่านเศรษฐกิจกลางคืน อาทิ ด้านความปลอดภัย จะปรับปรุงและเพิ่มไฟส่องสว่างพร้อมจัดเทศกิจดูแลตรวจตรา ด้านการเดินทาง จะนำร่องเดินรถเมล์เชื่อมต่อกับจุดเปลี่ยนถ่ายการสัญจรหลักครอบคลุมตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งเป้าเดินรถขนส่งมวลชนทั้งสายหลัก-สายรองเพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ขณะที่ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก จะปรับปรุงและพัฒนาห้องน้ำสาธารณะให้ปลอดภัย ใช้งานได้จริง ไร้ข้อจำกัดเรื่องเวลาให้บริการ
“หลายคนสะท้อนว่าไม่เคยเห็นผู้ว่าฯ ในเวลากลางคืนเลย เคยเห็นแต่ช่วงกลางวัน ดังนั้นต้องมีนโยบาย ผู้ว่าฯเที่ยงคืน เพื่อดูแลความปลอดภัยของคนที่เลิกงานกลางคืน ครอบคลุมปัญหาไฟส่องสว่าง การเดินทางด้วยรถเมล์รอบดึก คนเลิกงานดึกต้องมีห้องน้ำสาธารณะ น้ำสะอาด ไฟสว่าง หรือแม้กระทั่งในย่านท่องเที่ยวค่ำคืน เป็นไปได้หรือไม่ที่จะตกแต่งให้สวยงาม เพื่อให้เห็นความสวยงามของกรุงเทพฯ ในอีกมิติ” นายชัชชาติ กล่าว
เฟซบุ๊ก ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยังอธิบายว่า กทม. จะกำหนดให้มีผู้รับผิดชอบเป็น “ผู้ว่าฯ เที่ยงคืน” เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจกลางคืนผ่านการเป็นพื้นที่รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะของคนที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตและกิจกรรมทางเศรษฐกิจภาคกลางคืน และนำมาพัฒนาในมิติต่าง ๆ เช่น
[ด้านความปลอดภัย ]
– ปรับปรุงและเพิ่มไฟส่องสว่างตามทางเท้าหรือถนนในย่านเศรษฐกิจกลางคืนให้ปลอดภัยต่อคนทำงาน ผู้ใช้บริการ และผู้ประกอบการ รวมถึงจัดให้มีเทศกิจดูแลความปลอดภัยและตรวจตราในย่านเศรษฐกิจกลางคืน
[ ด้านการเดินทาง ]
– นำร่องเดินรถเมล์สายหลักและสายรองจากย่านเศรษฐกิจกลางคืนสู่จุดเปลี่ยนถ่าย (node) หลัก ๆ ในกรุงเทพฯ ให้ครอบคลุมตลอด 24 ชั่วโมง โดยเดินรถทั้งสายหลักและสายรองเพื่อรับ-ส่งคนเข้าและออกจากย่าน เพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชน
– อำนวยความสะดวกในจุดจอดรถแท็กซี่บริเวณย่านธุรกิจกลางคืนเพื่อลดการกีดขวางช่องทางจราจรโดยมีเทศกิจคอยตรวจตรา
[ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ]
– ปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพห้องน้ำสาธารณะให้ปลอดภัยและใช้งานได้จริง ไร้ข้อจำกัดเรื่องเวลาให้บริการ
คนกรุงเทพฯ ได้อะไร?
– ประชาชนที่ทำงานกลางคืน ผู้ใช้บริการ และธุรกิจกลางคืนได้ใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย
– การเดินทางช่วงกลางคืนสะดวกและง่ายมากขึ้น
– ธุรกิจกลางคืนเติบโตสามารถช่วยผลักดันเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ได้ เนื่องจากมีการจ้างงานและมีลูกค้าเพิ่มขึ้น