เว็บไซต์ Newsxtra สรุปข่าวประจำวันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน 2565 ดังนี้
ศาลรธน. เรียกบันทึกการประชุม 501:
ภายหลัง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมวาระพิเศษ เพื่อพิจารณาพยานหลักฐาน และคำชี้แจงประเด็น วาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงของตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ศาลมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดส่งสำเนาบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 501 วันอังคารที่ 11 ก.ย. 2561 ซึ่งมีวาระการประชุม รับรองบันทึกการประชุม ครั้งที่ 500 วันศุกร์ที่ 7 ก.ย. 2561 ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมตรวจทานแล้วโดยไม่มีการแก้ไข ทั้งนี้ให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันอังคารที่ 13 ก.ย. 2565 และกำหนดนัดพิจารณาคดีครั้งต่อไปในวันพุธที่ 14 ก.ย. 2565
สมคิด กล่าว 4 กุมาร โดนพิษการเมือง:
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย(สอท.) ระบุตอนหนึ่งว่สในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วยกันทำงาน ทำให้จีดีพีโต 3% ต้น ๆ 2 ปีต่อกัน และโต 4% ต้น ๆ อีก 2 ปีติดต่อกัน ซึ่งนายสมคิดเฉลยว่า “ผมเป็นคนส่งทีม ‘สี่กุมาร’ เข้าไป จริง ๆ ไม่ใช่แค่สี่กุมาร ขณะนั้นรัฐบาลเกินครึ่งผมเป็นคนเสนอเข้าไปเอง ดูว่าแต่ละคนต้องทำงานเป็น ทำงานได้” ทว่าต่อมา “ทีมสี่กุมารไปเจอพิษการเมืองที่แสวงหาอำนาจ แต่ไม่แสวงหาปัญญา”
สมคิด ระบุ เป็นนายกฯ ฟ้าลิขิต:
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และอดีตที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เปิดตัวในฐานะประธานพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) พร้อมกล่าวถึงประเด็นการเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคว่า“การเป็นนายกฯ นั้นฟ้าลิขิต”
นิพิฏฐ์ เหน็บมีชัย อธิบายเหตุผลในสิ่งที่ไม่มีได้:
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “อธิบายเหตุผลในสิ่งที่ไม่มีเหตุผล” โดยระบุว่าการให้ความเห็นทางกฎหมายของอาจารย์มีชัย มักมีข้อโต้แย้งได้เสมอ การรับฟังอาจารย์มีชัย จึงต้องแยกเป็น 2 ส่วนว่า ท่านกำลังอธิบายข้อกฎหมายล้วนๆ หรือ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอำนาจทางการเมือง ถ้าอธิบายกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอำนาจทางการเมือง ก็ต้องดูว่า อาจารย์มีชัย เป็นขั้วไหนทางการเมืองด้วยเสมออาจารย์มีชัย กับ ดร.วิษณุ จะเหมือนกันตรงที่ต้องดูว่า ท่านอยู่ฝ่ายไหนของการเมือง ผู้มีอำนาจทางการเมืองจึงนิยมนำอาจารย์มีชัย และ ดร.วิษณุ มาอยู่ข้างกายเสมอ
อดิเรกสาร ทิ้งรวมไทยสร้างชาติ:
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวกรณีที่ นายปองพล อดิเรกสาร อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมบุตรชาย นายปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรค ว่าการลาออกของนายปองพลและนายปรพลไม่ใช่เพราะมีความขัดแย้งอะไรกัน แต่เป็นเรื่องของการลงสมัคร ส.ส.ที่นายปรพลขอเปลี่ยนจากแบบบัญชีรายชื่อที่เคยตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก เป็นแบบ ส.ส.เขตแทน ทั้งนี้ต่อมามนวันที่ 8 ก.ย. นายปองพลกับนายปรพลสวมเสื้อพรรคสร้างอนาคตไทยแล้ว โดยได้มาร่วมกิจกรรม #คิดสร้างอนาคตไทย เป็นการเปิดตัว นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในตำแหน่งประธานพรรคสร้างอนาคตไทยอีกด้วย
สมคิด ลั่น “วิชั่นเศรษฐกิจ”:
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทยกล่าวว่า อยากให้พรรคนี้พยายามเข้าไปกอบกู้และสร้างอนาคตของประเทศไทย ได้ยินว่านายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค จะตั้งกองทุนสร้างอนาคตไทย จึงขอให้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนเร่งด่วน ช่วยเหลือคนยากลำบาก ไม่เช่นนั้นจะอยู่ไม่ได้ ส่วนกองที่สอง คือกองทุนเพื่ออนาคต คนไทยกว่า 60% อยู่ในภาคเกษตรกรรม แต่กลับมีส่วนในจีดีพีน้อย จึงไม่มีอำนาจซื้อ เราจึงต้องเปลี่ยนแปลงและช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ นอกจากนี้ ยังต้องปฏิรูปการท่องเที่ยว และทำให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินในชุมชุน เมื่อเชื่อมต่อระหว่างการเกษตรยุคใหม่ และการท่องเที่ยว มีหรือที่ชีวิตความเป็นอยู่จะไม่ดีขึ้น ทั้งนี้ ความผิดไม่ได้อยู่ที่การประกัน หรือการจำนำ แต่อยู่ที่การคอร์รัปชัน จึงต้องปฏิรูปให้ชัดเจน อนาคตข้างหน้าเครื่องยนต์เศรษฐกิจไม่ได้อยู่ที่บริษัทใหญ่ๆ แต่อยู่ที่ทุกคน