ไทยเป็นเมืองพุทธ ไม่เอา ‘กาสิโนถูกกฎหมาย’

วันที่ 12 ธ.ค. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “บ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย จะเอาหรือไม่!”

จากการสำรวจเมื่อถามถึงการเคยเข้าบ่อนกาสิโนของประชาชน พบว่า
– ร้อยละ 93.70 ระบุว่า ไม่เคยเข้าบ่อนกาสิโน
– ร้อยละ 4.40 ระบุว่า เคยเข้าบ่อนกาสิโนในต่างประเทศ
– ร้อยละ 0.91 ระบุว่า เคยเข้าบ่อนกาสิโนในประเทศ และเคยเข้าบ่อนกาสิโน ทั้งในและต่างประเทศ ในสัดส่วนที่เท่ากัน
– ร้อยละ 0.08 ระบุว่า ไม่แน่ใจว่าที่เคยเข้าเป็นบ่อนกาสิโน หรือเปล่า

สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอให้มีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย พบว่า
-ร้อยละ 46.51 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะ เป็นการมอมเมาประชาชน อาจทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัว ปัญหาหนี้สิน และปัญหาอาชญากรรม ขณะที่บางส่วนระบุว่า ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธไม่ควรจะมีการพนันแบบถูกกฎหมาย
-ร้อยละ 21.25 ระบุว่า เห็นด้วยมาก เพราะ รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีเพื่อนำมาพัฒนาประเทศ คนไทยจะได้ไม่ต้องเดินทางไปเล่นที่ต่างประเทศ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ถึงไม่เปิดกาสิโนแบบถูกกฎหมายก็มีการลักลอบเปิดบ่อนเถื่อนอยู่ดี
– ร้อยละ 18.13 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนภายในประเทศ และคนไทยจะได้ไม่ต้องลักลอบเล่นการพนันแบบผิดกฎหมาย
– ร้อยละ 10.32 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะ การพนัน เป็นสิ่งที่ไม่ดี ไม่ชอบเล่นการพนัน อาจทำให้เกิดปัญหาหนี้สินและปัญหาอาชญากรรมเพิ่มมากขึ้น
– ร้อยละ 3.79 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์ พบว่า

– ร้อยละ 68.51 ระบุว่า ทั้งตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์ไม่ควรเป็นสิ่งถูกกฎหมาย
– ร้อยละ 23.37 ระบุว่า ทั้งตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์ควรเป็น สิ่งถูกกฎหมาย
– ร้อยละ 2.28 ระบุว่า ตู้เกมพนันไฟฟ้าควรเป็นสิ่งถูกกฎหมาย
– ร้อยละ 2.05 ระบุว่า การพนันออนไลน์ควรเป็นสิ่งถูกกฎหมาย
และร้อยละ 3.79 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการเล่นไพ่กินเงินในหมู่ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง พบว่า
– ร้อยละ 47.72 ระบุว่า ไม่ควรเป็นกิจกรรมที่ถูกกฎหมาย
– ร้อยละ 33.54 ระบุว่า ควรเป็นกิจกรรมที่ถูกกฎหมาย แต่ให้กำหนดกฎเกณฑ์ เช่น จำนวนผู้เล่น วงเงินพนัน สถานที่ เป็นต้น
– ร้อยละ 14.87 ระบุว่า ควรเป็นกิจกรรมที่ถูกกฎหมาย
– ร้อยละ 3.87 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ