สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ปราศรัยเดือด ซัดใคร โกหก ว่าลงอิสระ “อยากจะเป็นผู้ว่าฯ แต่ไม่ส่ง ส.ก.แล้วบอกว่าอิสระ มันมีด้วยเหรอ”
เมื่อวันที่ 13 พ.ค.65 สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัย ที่สวนสาธารณะหมู่บ้านนักกีฬาเขตสะพานสูง กล่าวตอนหนึ่งว่า รามาพูดความจริง ว่าเรามีความมุ่งมั่นจะเปลี่ยนกรุงเทพ เราทำได้ ผมไม่ได้ว่าใคร แต่ไม่รู้ว่าพรรคการเมืองเขาส่ง ส.ก.แต่ไม่ส่งผู้ว่า มีด้วยเหรอครับแบบนี้ และหรือมีผู้ว่าฯ อยากจะเป็นผู้ว่าฯ แต่ไม่ส่ง ส.ก.แล้วบอกว่าอิสระ มันมีด้วยเหรอครับ ผมไม่ได้ว่าใครนะครับ แต่ผมกำลังจะบอกว่า วันนี้ท่านจะรักหรือไม่รัก จะชอบประชาธิปัตย์หรือไม่ชอบผมก็แล้วแต่ แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านจะว่าผม ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ส.ก.ทั้ง 50 เขตไม่ได้คือเรามีความจริงใจ เราไม่โกหก
สุชัชวีร์ กล่าวว่า ปัญหาของกรุงเทพฯ ตะวันออก ที่ครอบคลุมพื้นที่ย่านพระโขนง บางกะปิ ประเวศ มีนบุรี มีปัญหาสำคัญคือปัญหาน้ำท่วม เพราะพื้นที่นี้คือแนวคันกั้นน้ำ ประกอบกับถนนศรีนครินทร์ โดยเฉพาะแยกลำสาลี และแยกกรุงเทพกรีฑา ถึงคลองกะจะ เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ เมื่อฝนตกจะเกิดปัญหาน้ำท่วมขัง กทม. ไม่มีการลอกท่อ ลอกคลองอย่างจริงจัง ไม่มีการวางแผนระบบระบายน้ำ อีกทั้งยังมีปัญหาขยะและผักตบชวา
“ผมนั่งเรือคลองประเวศ กับท่านกิตพล คลองประเวศก่อนจะถึงสถานีสูบน้ำพระโขนง ก่อนถึงวัดคุณย่านาค ตรงนั้นเขื่อนยังทำไม่เสร็จเลย คิดไม่ครบทำไม่จบ สุดท้ายเขื่อนที่ทำไม่เสร็จนี้ทำให้น้ำไปไม่ถึงเจ้าพระยา คนรับกรรมคือคนกรุงเทพฯ ตะวันออก แบบนี้ยังจะทำแบบเก่าๆ อยู่อีกเหรอ คนหนุ่มมีพลัง มีความรู้ ไม่ใช่ใครก็บริหารกรุงเทพฯ ได้ มันไม่ใช่งานการเมือง แต่ผู้ว่าฯ เข้ามาเป็นช่าง เอาคนไม่มีความรู้เป็นช่างจะแก้ปัญหาได้ยังไง”
สุชัชวีร์ กล่าวว่า ปัญหาอีกเรื่องที่คนกรุงเทพตะวันออกต้องประสบคือ รถติด ถนนเละเทะ เพราะการก่อสร้างรถไฟฟ้า แม้จะเห็นด้วยกับการมีรถไฟฟ้า แต่ไม่มีบ้านเมืองไหนก่อสร้างแล้วเอาถนนไป 2 เลน ถ้ามีผู้ว่าฯ ชื่อ สุชัชวีร์ จะไปทวงผิวทางจราจรให้คืนมา ชีวิตพี่น้องประชาชนดีขึ้นทันที เมื่อไปดูเรื่องฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะเขตบึงกุ่ม หนองจอก บางกะปิ ลาดกระบัง 4 เขตนี้มีค่าเฉลี่ย PM 2.5 สูงที่สุดในกรุงเทพ เพราะมีถนนวงแหวนรอบนอกที่รถบรรทุกใช้วิ่งเลี่ยงเมือง และยังมีการก่อสร้าง ถมดินอยู่ตลอด รวมถึงการเผาขยะ และมีโรงงานอุตสาหกรรม การติดตั้งเครื่องวัดฝุ่น PM 2.5 จะทำให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้และป้องกันตัวเอง ขณะที่ตัวผู้ว่าฯ กทม. สามารถใช้ติดตามและวัดผลการทำงานของเขตได้อีกด้วย
“ผมจะให้ดูเลยว่ารถสิบล้อที่ปล่อยควันดำ ทำให้ตายจริงๆ ฝุ่นเข้าร่างกายจะอยู่ตลอดไป ท่านจะเห็นผู้ว่าฯ เอาจริงเอาจังกับการก่อสร้างที่ไร้ความรับผิดชอบ ผมเป็นห่วงลูกๆ ของพี่น้องทุกคน ปัญหาการจราจรกรุงเทพตะวันออก จะมีผู้ว่าฯ ชื่อสุชัชวีร์มาแก้ปัญหาให้อย่างเบ็ดเสร็จ”
สุชัชวีร์ ได้กล่าวถึง ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณว่า ดร.สุรินทร์ กล่าวว่า ท่านกับตนมีความเหมือนกันในเรื่องของโอกาสที่ได้ศึกษาต่อ ดังนั้นมีโอกาสเมื่อไหร่เราต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน และสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงคือการศึกษาของลูกหลานของเรา แต่ทำไมโรงเรียนใน กทม. ถึงเป็นแบบนี้ เพราะเราไม่มีผู้ว่าฯ ที่ให้ความสำคัญกับการศึกษา ซึ่งสวัสดิการที่ดีที่สุดคือสวัสดิการด้านการศึกษา ตนมีความตั้งใจจะเป็นผู้ว่าฯ การศึกษาของ กทม. ให้ได้
“ผู้สมัครทุกคนพูดว่าจะทำเรื่องการศึกษา แต่ในชีวิตเคยทำเรื่องการศึกษามาบ้างมั้ย แต่วันนี้เวทีปราศรัยต้องพูดความจริง คนที่ทำการศึกษามา อยู่ตรงนี้ ชื่อสุชัชวีร์ เบอร์ 4 ผมจะดูแลลูกๆ ไม่ใช่ขอไปที แต่ให้ดีที่สุด ไม่แพ้ใครในโลก อย่าไปเลือกคนอื่นเลย เพราะเขาไม่รู้ว่าจะทำยังไง”
สุชัชวีร์ ยังกล่าวถึงเรื่องสาธารณสุขของชาวกรุงเทพตะวันออกว่า จากการลงพื้นที่ 50 เขต พบว่าทุกบ้านมีผู้สูงอายุ ตนจึงตั้งใจยกระดับโรงพยาบาล และศูนย์บริการสาธารณสุข เพื่อให้มีโรงพยาบาลถึง 80 แห่ง ในต่างประเทศเขาไม่มีโรงพยาบาลใหญ่ขนาดนั้น แต่จะมีขนาดเล็ก ทำให้ผู้มาใช้บริการแทบไม่ต้องรอคิว
“ในชั่วชีวิตหนึ่งต้องทำให้ถูกต้อง ตรงไปตรงมา จะแพ้ชนะไม่เป็นไร แต่ขอให้ได้พูดความจริง ท่านเห็นพลังและความจริงใจของผม ท่านเห็นประสบการณ์ เห็นความรู้ ความมุ่งมั่นแล้ว ไม่มีข้อกังขา แต่วันนี้สิ่งที่ได้เห็นคือความจริงที่ประชาธิปัตย์ส่ง ส.ก. ทั้ง 50 คน 50 เขต วันนี้ตะโกนไปเลยให้เข้าคูหากาผู้ว่าฯ เบอร์ 4 และ ผู้ว่าฯ ทำงานคนเดียวอย่ามาพูดเลย มันเป็นไปไม่ได้ วันนี้ท่านต้องเลือกอนาคต กทม. เพราะ 4 ปี เด็กจากอนุบาลเข้าประถม ผู้สูงอายุจะไหวมั้ย อีก 4 ปี น้ำจะท่วมลาดกระบังจมไปแค่ไหน แต่ถ้าเลือกสุชัชวีร์ พร้อม ส.ก. 50 เขต 50 คน มั่นใจได้เลย จะรักหรือไม่รัก แต่ไว้ใจได้ว่าท่านเลือกคนมาทำงาน ต้องไว้ใจคนพูดความจริง ไว้ใจคนที่มาพร้อมกับทีมงาน และวิสัยทัศน์ เปลี่ยนกรุงเทพให้เป็นเมืองสวัสดิการ ที่ทันสมัย ต้นแบบของอาเซียนให้ได้”