พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เสร็จแล้ว รอเข้าสภาวาระ 2-3 “เท่าพิภพ” มั่นใจกว่าวาระแรก

เท่าพิภพ ขอบคุณทุกฝ่าย ปิดฉากสมัยประชุม พร้อมกับร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ฉบับเสร็จสมบูรณ์ หวังวาระต่อไปทุกคนโหวตผ่านฉลุย

วันที่ 16 ก.ย. 65 ที่รัฐสภา นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสรรพสามิต หรือ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า พร้อมด้วย นายคริส โปตระนันทน์ โฆษกกรรมาธิการ ได้เเถลงข่าวเนื่องในโอกาสที่ร่างพ.ร.บ. ได้พิจารณาเสร็จสิ้นว่า “ผมยอมรับว่ามันเป็นสามเดือนที่เหนื่อยมาก เเละเป็นวันที่เหลือเชื่ออย่างยิ่งที่ร่างพรบ.ผ่านมาได้ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ก้าวใกล้ความฝันได้อีกก้าวหนึ่ง และผลงานของพรบ.ฉบับนี้เป็นผลงานของทุกพรรคการเมืองเเละสภาเเห่งนี้ที่ช่วยผลักดันในชั้นกรรมาธิการให้ร่างกฎหมายออกมามีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นเเละคิดว่ารอบโจทย์ข้อกังวลในหลาย ๆเรื่องของสมาชิกสภาที่ได้อภิปรายไว้ในวาระที่ 1”

“ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ช่วยส่งเสียรณรงค์เเละสนับสนุน ประธานกรรมาธิการ กรรมาธิการทุกท่าน ที่เเม้จะมีข้อถกเถียงกันในหลายประเด็นเเต่สุดท้ายก็พิสูจน์ให้เห็นกระบวนการกรรมาธิการของสภาคือที่ที่เปิดกว้างให้ได้ถกเถียงเเต่สุดท้ายก็หาจุดร่วมกันได้”

นายเท่าพิภพ กล่าวต่อไปว่า ในอนาคตตนมั่นใจและไม่ห่วง และมั่นใจมากกว่าวาระแรก “โดยพรบ.จะเข้าพิจารณาในวาระที่ 2 และวาระ 3 ในอนาคต ผมเองไม่ได้ห่วง เเต่กลับมั่นใจมากขึ้นกว่าตอนวาระที่ 1 เพราะเชื่อว่ากรรมาธิการจากทุกพรรคจะไปอธิบายถึงเนื้อที่ได้พิจารณามาอย่างรอบคอบเเละเป็นประโยชน์ที่สุดกับประชาชนคนตัวเล็ก ที่พวกเขาจะได้รับโอกาสทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากการปลดล็อคสุราก้าวหน้าครั้งนี้ แต่ก็ยังต้องจับดูหากผ่านสภาผู้แทนฯ ไปเเล้ว ขั้นตอนต่อไป วุฒิสภาจะต้องลงมติเห็นชอบต่อไป ซึ่งผมขอวิงวอนให้ประชาชนจับตาว่าฝั่งจะมีสมาชิกวุฒิสภาหรือผู้ใดจะล้มร่างกฎหมายของประชาชนหรือไม่” เท่าพิภพกล่าวถึงความสำคัญของก้าวต่อไปของกฎหมายฉบับดังกล่าว

ด้านนายคริส โปตระนันทน์ โฆษกกรรมาธิการได้กล่าวในส่วนข้อกฎหมายที่ผ่านการเเก้ไขว่า “ในส่วนของการให้ผู้ผลิตรายย่อยได้เข้าสู่ตลาดได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องกำลังการผลิต แรงม้า กำลังคนเเละทุนจดทะเบียนทางกรรมาธิการเห็นตรงกันว่าต้องปลดล็อคเเละเปิดโอกาสให้รายย่อยได้เข้าสู่ตลาด จึงให้คงไว้ เพียงแต่มีการปรับข้อความให้รัดกุมและชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันกรรมาธิการก็เข้าใจถึงความกังวลของสังคมในเรื่องการผลิตที่มิใช่การค้าของประชาชนในครัวเรือนเเละตามประเพณี ซึ่งร่างกฎหมายนี้ปลดล็อกให้ทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ซึ่งหากไม่มีการกำกับของรัฐเลย ก็อาจจะทำให้รัฐเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี กรรมาธิการจึงเห็นตรงกันว่า การผลิตในครัวเรือนต้องมีการจดแจ้งกับกรมสรรพสามิตร ในเรื่องของชนิดและปริมาณของสุราที่ผลิต”

“ทั้งนี้ในส่วนของกระบวนการของการผ่านกฎหมายนี้ ในขั้นตอนต่อไปร่างกฎหมายและรายงานของกรรมาธิการพร้อมข้อสังเกต จะต้องเข้าสภาผู้แทนราษฎร และผ่านความเห็นชอบในวาระ 2 และวาระ 3 ในสมัยประชุมหน้าในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งกรรมาธิการชุดนี้จะต้องมีหน้าที่ในการตอบปัญหาข้อสงสัยและข้อซักถามต่อไป เราขอขอบคุณประชาชนในส่วนของแรงสนับสนุนของกฎหมายนี้ แต่อย่างไรก็ดี เราต้องขอให้ประชาชนจับตาดูกฎหมายนี้ต่อไปเนื่องจากเป็นร่างที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มหาศาล ซึ่งประโยชน์ก้อนนี้จะตกกับประชาชนหรือกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับว่า กฎหมายฉบับนี้จะผ่านหรือไม่ ความสำเร็จในขั้นกรรมาธิการเป็นเพียงก้าวแรกๆ การการที่กฎหมายนี้จะผ่านออกมาบังคับใช้ได้ยังต้องผ่านอีกหลายด่าน”