ภายหลังประธานคณะก้าวหน้า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เฟซบุ๊กไลฟ์ ตั้งคำถามถึงกระบวนการจัดหาวัคซีนของรัฐบาลไทย ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งดำเนินคดี ฐานบิดเบือนข้อมูล พร้อมมีการแจ้งความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
“ธนาธร” พูดอะไร
1.ธนาธร บอกว่า รัฐบาลประมาท ที่ไม่ได้เร่งจัดหาเจรจาเพื่อซื้อวัคซีนสำหรับคนไทยทุกคนตั้งแต่เนิ่นๆ ขณะที่หลายประเทศเริ่มเจรจาจัดหาตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 หรือ 2 ของปีที่แล้ว ส่วนไทยกว่าจะเจรจาหาข้อสรุปได้ ก็ปาเข้าไปถึงเดือน ต.ค. ปี 2563
2.การเจราจาเพื่อจัดซื้อวัคซีนนั้นน้อยเกินไป และอยู่ในมือเพียงเจ้าเดียว คือ บริษัท แอสตราเซเนกา รัฐบาลไทยนิ่งนอนใจจนไม่มีการเจรจาใดๆเพิ่ม เพิ่งจะมาเริ่มเมื่อต้นเดือน ม.ค.2564 ว่าจะจัดซื้อกับ บริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค ผู้ผลิตวัคซีนสัญชาติจีนอีก 2 ล้านโดส ซึ่งปริมาณก็น้อยนิดเหลือเกิน
3.ธนาธร ยกตัวอย่างการจัดหาวัคซีนของต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย ปัจจุบันมีจำนวนวัคซีนที่ครอบคลุมประชากรทั้งหมดถึง 71% ,ไต้หวัน จัดหาวัคซีนได้ครอบคลุมประชากร 42% เรียบร้อยแล้ว , ฟิลิปปินส์ มีวัคซีนครอบคลุมถึง 45.1 % ของจำนวนประชาชน ,ขณะที่ไทย วัคซีนตอนนี้ที่เจรจาได้แล้วคือจาก บริษัท แอสตราเซเนกา 26 ล้านโดส และ บริษัท ซิโนแวค 2 ล้านโดส คิดเป็น 21.5 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนประชากรเท่านั้นเอง
4.ธนาธร ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ บริษัทที่แอสตราเซเนกา จ้างผลิตวัคซีน โดยบอกว่า ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงถือหุ้น 100% มี 2 บริษัทเกี่ยวข้อง 1) เอเพกเซลาร์ ทุนจดทะเบียน 250 ล้านบาท ขาดทุนสะสมไปแล้ว 112.4 ล้านบาท 2)บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ทุนจดทะเบียน 4,800 ล้านบาท ขาดทุนสะสมไปแล้ว 581 ล้านบาท และยังมีบริษัทลูกที่ตรวจค้นเจออย่างน้อย 3 บริษัท ผลการดำเนินงานขาดทุนทั้งหมด
5.ธนาธร บอกว่า บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ยังได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตวัคซีน อีกถึง 1,449 ล้านบาท โดยในที่ประชุมกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2563 เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2563 มีกรรมการท่านหนึ่ง ได้ตั้งข้อสงสัยไว้ว่า มีประเด็นข้อกังวลเรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ เนื่องจากเป็นการนำงบจากรัฐบาลไปสนับสนุนบริษัทเอกชน ขอให้พิจารณาดำเนินการด้วยความรอบคอบและโปร่งใส และมีความเห็นว่าสถาบันวัคซีนต้องเปิดเผยข้อมูลการขัดกันแห่งผลประโยชน์ให้ทราบด้วย
6.ธนาธร ตั้งคำถามว่า การแทงม้าตัวเดียว หรือ การพึ่งพาโครงสร้างแบบเดียวในการจัดหาวัคซีนให้กับประชาชนคนไทย เป็นการตัดสินใจของฝ่ายบริหารที่เหมาะสมหรือไม่ และตั้งคำถามว่า ข้อตกลงเรื่องวัคซีนที่ทำกับ บริษัท แอสตราเซเนกา เป็นการฝากอนาคตของประเทศไทยไว้กับ บริษัท แอสตราเซเนกา และ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ มากเกินไปหรือไม่ โดยการเจรจาเช่นนี้ทำให้ตัดโอกาสการพิจารณาทางเลือกอื่นๆ เพื่อจัดหาวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรได้มากที่สุด และให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนได้เร็วที่สุดในประเทศไทยหรือไม่
7.เนื่องด้วยการดีลวัคซีน 26 ล้านโดส เกิดขึ้นในช่วงที่มีการชุมนุมปี 63 ธนาธร กล่าวว่า การกระทำครั้งนี้ของรัฐบาล เป็นการกระทำที่ต้องการจะสร้างความนิยมทางการเมือง มากกว่าที่ต้องการหาข้อสรุปในการจัดการวัคซีนให้กับคนไทยให้ได้ครอบคลุมมากที่สุดและเร็วสุดหรือไม่
8. ธนาธร ถาม พล.อ.ประยุทธ์ ว่าถ้าเกิดว่าข้อตกลงอย่างนี้มีอะไรผิดพลาด พล.อ.ประยุทธ์จะสามารถรับผิดชอบได้หรือไม่ ?